ผ่าเทรนด์ ‘ลงทุนไอที’ ที่ผู้นำธุรกิจต้องรู้

รายงานจาก “ไอดีซี” เผยให้เห็นถึงความสำคัญของการเพิ่มรายได้ทางธุรกิจผ่านผลิตภัณฑ์และบริการทางดิจิทัลมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่ากลุ่มธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึง 1 ใน 3 จะสามารถสร้างรายได้มากกว่าถึง 15% จากการประยุกต์ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการทางดิจิทัลในปี 2566

จีบู แมทธิว รองประธานและผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท โซโห คอร์ป (Zoho Corp) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับธุรกิจ วิเคราะห์ว่า แม้ว่าบริษัทอาจหาซื้อซอฟต์แวร์ได้ง่ายกว่าที่เคย แต่นั่นไม่ได้การันตีถึงความสำเร็จ ดังนั้น การขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้าให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลจำเป็นต้องค้นหาจุดบกพร่องในการทำงานให้พบเสียก่อน

• เปิดเทรนด์ลงทุนไอทีที่น่าจับตามอง

เทรนด์การลงทุนไอทีที่น่าจับตามอง สำหรับกลุ่มองค์กรในภูมิภาคที่กำลังมองหาเครื่องมือที่ตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมของการทำงานที่มีการแข่งขันสูงประกอบด้วย

เครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกัน จะยังมีความสำคัญเพราะการทำงานแบบไฮบริดเป็นที่นิยมมากขึ้น : ขณะนี้ยังคงมีความต้องการเครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกัน เนื่องจากรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดได้รับความนิยมมากขึ้น

การศึกษาของ Telstra พบว่า องค์กร 85% กำลังส่งเสริมให้มีการทำงานแบบไฮบริด ทั้งการ์ทเนอร์ยังคาดการณ์ว่าโมเดลการทำงาน “ยืดหยุ่นแบบไฮบริด (Hybrid-flexible)” จะประสบความสำเร็จในภูมิภาคนี้ได้ หากมีการนำไปใช้และจัดการอย่างเหมาะสม

ความสามารถในการทำงานร่วมกันจะมีประสิทธิภาพมากกว่าการบูรณาการ (Integration) : คลื่นลูกใหม่ของการรวมรูปแบบการให้บริการ Software-as-a-Service (SaaS) จะมุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการทำงานร่วมกันมากกว่าการบูรณาการ เนื่องจากธุรกิจกำลังมองหาการลงทุนในแพลตฟอร์มระบบคลาวด์แบบรวมศูนย์ที่รองรับบริการที่ทำงานร่วมกันได้

ความสามารถด้านเทคโนโลยีเชิงลึกจะเอื้อให้มีการเปิดรับบริการคลาวด์เพิ่มขึ้น : บริษัทที่ต้องการยกระดับไปสู่ดิจิทัลมีแนวโน้มว่าจะทดลองใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นเอไอและบล็อกเชนในรูปแบบโซลูชันบนคลาวด์

การปรับให้เข้ากับท้องถิ่นเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จในตลาดที่มีความหลากหลาย : ธุรกิจทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังปรับเปลี่ยนและค้นหากลยุทธ์ด้านระบบคลาวด์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนเอง ดังนั้นผู้ให้บริการไอทีต้องหาข้อเสนอให้ตรงตามความคาดหวังที่หลากหลายตามแต่ละตลาด

การปรับผลิตภัณฑ์หรือบริการให้เข้ากับท้องถิ่นนั้นไม่ใช่แค่เพียงปรับเปลี่ยนให้เป็นภาษาท้องถิ่นเท่านั้น แต่ควรรวมไปถึงการปรับตัวในด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการธุรกิจ

ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล : วันนี้เกือบทุกประเทศมีกฎหมายที่บังคับใช้เพื่อป้องกันทั้งข้อมูลธุรกิจและข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยเหตุนี้ให้บริการไอทีจึงจำเป็นต้องลงทุนเพิ่มเติมด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูลและความเป็นส่วนตัวอื่นๆ

ขณะเดียวกัน สามารถประกาศต่อสาธารณชนได้อย่างเต็มปากว่าจะไม่มีการสร้างรายได้จากข้อมูลลูกค้าเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง ซึ่งจะยิ่งเพิ่มมูลค่าแบรนด์และความน่าเชื่อถือในสายตาของผู้ใช้งาน