‘เอไอเอส’ ชี้ทางรอด 'เอสเอ็มอีไทย' ใช้ ‘เอไอ’ เสริมธุรกิจแบบสมาร์ท
‘เอไอเอส’ ชี้ทางรอดเอสเอ็มอีไทย หันใช้ ‘เอไอ’ เสริมธุรกิจให้สมาร์ท ภายในงานสัมมนา PostToday Smart SME ยุค AI เขย่าโลก ในหัวข้อ How to be Smart SME วานนี้ (19 มิ.ย.)
นายนวชัย เกียรติก่อเกื้อ หัวหน้าส่วนงานการตลาดลูกค้าองค์กรและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวในงานสัมมนา PostToday Smart SME ยุค AI เขย่าโลก ในหัวข้อ How to be Smart SME ว่า ในปี 2562-2563 ผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อย (เอสเอ็มอี) ของไทยแข็งแรงขึ้นอย่างมากและเติบโตได้ดี และส่วนตัวเชื่อว่าเอสเอ็มอีไทยจะเป็นกำลังสำคัญของธุรกิจไทยในอนาคต
ทั้งนี้ หากถามว่าเอสเอ็มอีไทยต้องการอะไรบ้าง หลักสำคัญคือ ทำอย่างไรที่จะเพิ่ม Productivity, หาลูกค้าใหม่ได้อย่างไร , ทำอย่างไรที่จะทำให้พนักงานทำงานได้จากทุกที่ ฯลฯ
เมื่อปี 2561 ข้อมูลจากบีซีจีระบุว่า เทรนด์เทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนโลกในอนาคตอันใกล้ประกอบด้วย
- 5G
- IoT
- Extended Reality
- Al/Machine Learning
- Robotics
- Cloud & Edge Computing
- Big Data & Analytics
- Cybersecurity
- Alternative Energy
- Blockchain
- Robotic Process Automation
- Mass Personalization
- Satellite Internet Constellation
- Human Augmentation (Bionics)
- Biometrics
แต่ทั้งนี้ให้สังเกตุว่าวันนั้นยังไม่มีคำว่า Generative AI หรือ ChatGPT เกิดขึ้นมา
อ้างอิงจากข้อมูลของบีซีจีพบว่า ขณะนี้ธุรกิจบนโลกมองเอไอในเชิงบวก ขณะเดียวกันเป็นโอกาสที่จะสร้างเรื่องดีๆ ให้เกิดขึ้นได้ มากกว่าความกังวลต่ออะไรที่เกิดขึ้นใหม่ๆ คือโอกาสแต่เป็นโอกาสที่ต้องระมัดระวัง
ทั้งนี้ ประโยชน์ของ Generative AI ที่เห็นได้คือ เป็นแหล่งความรู้ ผู้เชี่ยวชาญ เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มอินโนเวชั่น ช่วยสร้างคอนเทนต์, การให้บริการลูกค้า,รวมถึงการนำดาต้ามาใช้ประโยชน์ เป็นต้น
โดยงานที่เอไอช่วยได้มีทั้งงานด้านมาร์เก็ตติ้ง สร้างคอนเทนต์ โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ, งานเขียนซอฟแวร์ ไอทีที่ต้องการเอาดาต้ามาประมวลผล, งานบริการ เอไอที่โต้ตอบได้ ฯลฯ
นอกจากนี้ Generative AI ยังสามารถสร้างประโยชน์ให้กับเอสเอ็มอี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมด้านการผลิต ตัวอย่างเช่น หลายองค์กรนำเอไอที่เป็นแมชีนเลิร์นนิงมาใช้ในกระบวนการผลิต แยกแยะของดีของเสีย ใช้ในการวิเคราะห์เพื่อลดการใช้พลังงาน ลดต้นทุน ลดการปล่อยของเสีย ลดต้นทุน เป็นต้น
เอไอเอสเชื่อว่า ไทยเป็นแหล่งผลิตสำคัญในโลก ที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยช่วยกันผลักดันให้เอสเอ็มอีไทยส่วนที่เป็นภาคการผลิตมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ด้วย 3 โซลูชัน คือ
1. Machine Monitoring ทำอย่างไรที่จะมอนิเตอร์เครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น เก็บดาต้าเครื่องจักรมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ดูสเตตัสเครื่องจักรว่าจะซ่อมเมื่อไหร่อย่างไร นำมาวิเคราะห์เข้อมูลต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ได้
2. OEE&Production Plan Monitoring ภาพรวมข้อมูลขององค์กร โดยนำดาต้ามาวิเคราะห์ว่าตรงไหนคือจุดอ่อนในสายผลิต นำข้อมูลจาก Machine แต่ละเครื่องมาวิเคราะห์ ประเมินพร้อมทำให้เกิดประสิทธิภาพ
3.Energy Management ทำอย่างไรให้ลดค่าไฟฟ้าได้ บริหารจัดการต้นทุน การบริหารจัดการเรื่องน้ำเสีย เป็นต้น
“เอไอเอสเชื่อในเรื่องของ Ecosystem Economy เชื่อว่าเอสเอ็มอีไทยคิดอะไรไม่ออกให้นึกถึงเอไอเอส เพราะเราทำ 2 เรื่องคือ 1.Digital IntelligenceInfrastructure 2.Cross Industries Collaboration ทำยังไงให้เกิดความร่วมมือในการข้ามอุตสาหกรรม และ 3. Human Capital & Sustainability มีข้อมูลต่างๆ ให้เอสเอ็มอีใช้ในการประกอบธุรกิจ”
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องระมัดระวังในการใช้ Generative AI คือ อย่าทำผิดกฏหมาย การนำข้อมูลส่วนบุคคลไปวิเคราะห์ เผยแพร่ เกิดการรั่วไหล การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งต้องระมัดระวังเรื่องความลับทางการค้า
ChatGPT ไม่ได้เก่งกว่ามนุษย์ เพราะสุดท้ายการนำ Generative AI ไปใช้ให้เกิดประโยชน์เป็นเรื่องของมนุษย์ อย่าเชื่อ Generative AI ร้อยเปอร์เซ็นต์