เปิดโต๊ะดินเนอร์‘ไบเดน’ อาเซียนได้อะไร

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน การประชุมผู้นำสหรัฐ-อาเซียนระยะเวลาสองวัน เปิดฉากขึ้นด้วยการรับประทานอาหารเย็นร่วมกันที่ทำเนียบขาว เมื่อวันพฤหัสบดี (12 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น อาหารที่เลี้ยงมีไก่ตุ๋นใบไทม์และไอศกรีมวานิลลา 

ในโอกาสนี้ทำเนียบขาวประกาศโครงการริเริ่มใหม่มูลค่าราว 150 ล้านดอลลาร์ ถือว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความช่วยเหลือ 40,000 ล้านดอลลาร์ที่ให้ยูเครน และหลายพันล้านที่จีนอัดฉีดให้ แต่สหรัฐเผยว่า กำลังประสานงานกับภาคเอกชนอเมริกัน และมีแผนเปิดตัวมาตรการช่วยเหลือที่กว้างขึ้น เรียกว่า กรอบความร่วมมือเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF) ตอนที่ ประธานาธิบดีไบเดนไปเยือนโตเกียวและโซลในสัปดาห์หน้า

ในโครงการริเริ่มชุดใหม่ 60 ล้านดอลลาร์จะทำโครงการริเริ่มทางทะเลที่รวมถึงการส่งเรือยามชายฝั่งและบุคลากรสู้การก่ออาชญากรรม เช่น การลักลอบทำประมงผิดกฎหมาย 40 ล้านดอลลาร์ลงทุนด้านพลังงานสะอาด และจะประสานกับภาพเอกชนเพิ่มโครงการให้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์

การประชุมครั้งนี้ผู้นำเมียนมาไม่ได้เข้าร่วมด้วยเนื่องจาก คณะทหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนเมื่อเดือน ก.พ.2564 สหรัฐเจ้าภาพแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ด้วยการปล่อยที่นั่งของเมียนมาว่างไว้ ผู้นำขบวนการประชาธิปไตยที่ลี้ภัยในต่างแดนได้รับเชิญมากรุงวอชิงตัน พบกับเวนดี เชอร์มาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ แต่ไม่ได้เป็นตัวแทนเมียนมาในการเจรจา ฟิลิปินส์ไม่ได้ส่งผู้นมาเพราะเพิ่งเลือกตั้ง โดยส่งรัฐมนตรีต่างประเทศมาแทน

เอเอฟพีระบุว่า ผู้นำอาเซียนที่ร่วมประชุมยังรวมถึงนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ประธานอาเซียน และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารเมื่อปี 2557 ด้วย ซึ่งทางองค์กรสิทธิมนุษยชน “ฮิวแมนไรท์วอทช์” กล่าวว่า สหรัฐจำเป็นต้องยกระดับประชาธิปไตยในประเทศอื่นนอกเหนือจากเมียนมาด้วย

“ถ้าสหรัฐไม่แสดงความกังวลเรื่องสิทธิมนุษยชนออกมาระหว่างการประชุม จะกลายเป็นว่าการละเมิดสิทธิมนุษยชนตอนนี้เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ในนามของการเสริมสร้างพันธมิตรเพื่อรับมือจีน” จอห์น ซิปตัน ผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทช์เอเชียให้ความเห็น