ประท้วงใหญ่อิสราเอล สะท้อนขัดแย้ง'รัฐบาล-ระบบยุติธรรม'
การประท้วงใหญ่ในอิสราเอลที่คาดว่ามีประชาชนกว่าแสนคน ออกมาประท้วงบนท้องถนนในกรุงเทลอาวีฟ เมืองหลวงของอิสราเอล เป็นหนึ่งในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลขวาจัดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ10 ปี และเป็นสัปดาห์ที่สองที่ประชาชนจำนวนมากออกมาประท้วงใน 4 เมืองของอิสราเอล
“ยาเอียร์ ลาพีด” ผู้นำฝ่ายค้านกล่าวต่อฝูงชนที่มาร่วมชุมนุมในกรุงเทลอาวีฟบอกว่า “ประชาชนที่รักประเทศนี้” ออกมาแสดงพลังเพื่อปกป้องประชาธิปไตยและศาลและจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะชนะ
การประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กลับมามีอำนาจอีกครั้ง และได้จัดตั้งรัฐบาลผสมที่มีเสถียรภาพครั้งแรกของอิสราเอลในรอบ 3 ปี ซึ่งรัฐบาลผสมของเนทันยาฮู ประกอบด้วยพรรคการเมืองฝ่ายขวา 4 พรรค รวมถึงพรรคการเมืองที่หัวหน้าพรรคเคยถูกตัดสินว่า มีความผิดฐานเหยียดเชื้อชาติและต่อต้านชาวอาหรับ และอีกพรรคหนึ่ง ที่แสดงความเกลียดชังคนรักเพศเดียวกันและผู้หญิงอย่างเปิดเผย
ขณะที่เนทันยาฮู อ้างว่า การประท้วงนี้เป็นการเคลื่อนไหวของคนที่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือน พ.ย.
แต่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง กล่าวหาเนทันยาฮูว่า คุกคามการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ท่ามกลางความขัดแย้งกันระหว่างรัฐบาลใหม่และผู้พิพากษาของอิสราเอลอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
แผนปฏิรูปของรัฐบาลจะเปิดโอกาสให้รัฐบาลมีอำนาจแทรกแซงศาลได้ ถ้าศาลยกเลิกกฎหมายในอนาคต ซึ่งผู้ไม่เห็นด้วยระบุว่า เรื่องนี้จะคุกคามการถ่วงดุลและตรวจสอบตามระบอบประชาธิปไตยของอิสราเอล โดยเนทันยาฮู ซึ่งเผชิญกับการไต่สวนเรื่องการทุจริต กำลังพยายามที่จะควบคุมผู้พิพากษาเพื่อที่จะทำให้ตัวเองรอดพ้นจากการถูกตัดสินจำคุก
นอกจากนี้ บรรดาผู้ประท้วงจำนวนมากยังต่อต้านจุดยืนหลายอย่างของพรรคร่วมรัฐบาล ที่รวมถึง การเหยียดเชื้อชาติอย่างเปิดเผย และพรรคการเมืองที่ต่อต้านชาวปาเลสไตน์และเกลียดชังคนรักเพศเดียวกันหลายพรรคจากฝ่ายขวาจัด
เมื่อรัฐบาลผสมเข้ามาบริหารประเทศ รัฐบาลก็ประกาศสิทธิต่าง ๆ ที่ให้แก่ชาวยิวแต่ฝ่ายเดียวในทุกพื้นที่ของแผ่นดิน รวมถึงดินแดนของปาเลสไตน์ที่อิสราเอลยึดครอง
ขณะที่กลุ่มนักวิชาการอิสราเอล มีความเห็นว่า การปฏิรูปดังกล่าวจะทำให้ศาลสูญเสียความเป็นอิสระและจะยิ่งเพิ่มการคอร์รัปชันมากขึ้นไปอีก แต่ถึงแม้เหตุประท้วงครั้งนี้ ยังไม่มีรายงานการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตำรวจอิสราเอลมีแผนรับมือหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น
การประท้วงล่าสุดมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากรัฐบาลไม่พอใจคำตัดสินของศาลสูงสุดเมื่อวันพุธที่ชี้ขาดว่า ผู้นำพรรคชาสที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย ขาดคุณสมบัติที่จะดำรงตำแหน่งเพราะมีประวัติกระทำผิดคดีอาญา
ที่แน่ๆการประท้วงครั้งนี้ ทำให้อิสราเอลกลับมาแตกแยกกันในเรื่องเดิมอีกครั้ง ระหว่างฝ่ายที่เคร่งศาสนาและกับฝ่ายที่ไม่อิงกับศาสนา และระหว่างฝ่ายเสรีนิยมและฝ่ายชาตินิยม