เยอรมนีเอาด้วย! จ่อส่งเรือรบเข้าอินโดแปซิฟิกเพิ่ม

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน นายบอริส พิสทอเรียส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเยอรมนี กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (4 มิ.ย.) ในเวทีแชงกรีลาไดอะล็อกที่สิงคโปร์ เวทีประชุมความมั่นคงสำคัญที่สุดของเอเชีย ว่าระบบนานาประเทศจำเป็นต้องยืนหยัดเพื่อระเบียบระหว่างประเทศบนพื้นฐานกฎหมายและปกป้องเส้นทางเดินเรือสำคัญ

“ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลกลางเยอรมนีได้ส่งเรือฟริเกตหนึ่งลำมายังอินโดแปซิฟิกในปี 2564 และจะส่งมาอีกในปี 2567 คราวนี้เป็นเรือฟริเกต 1 ลำและเรือลำเลียง 1 ลำ สู่ภูมิภาคนี้”

รมว.กลาโหมเยอรมนีกล่าวด้วยว่า การส่งเรือมาไม่ได้ต่อต้านชาติใดโดยตรง กระนั้นความเห็นของเขาก็ดูเหมือนพูดถึงจีน

“ในทางกลับกัน เรือเหล่านี้มุ่งหมายปกป้องระเบียบระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานกฎหมายที่พวกเราทุกคนลงนามกันไว้ และเราจะได้ประโยชน์ ด้วยการเข้าไปในเมดิเตอร์เรเนียน อ่าวเบงกอล หรือในทะเลจีนใต้” นายพิสทอเรียสกล่าว 

ทั้งนี้ การแสดงแสนยานุภาพทางทหารมากขึ้นในอินโดแปซิฟิก เท่ากับว่าเยอรมนีกำลังไต่เส้นลวดระหว่างความมั่นคงกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เนื่องจากจีนเป็นคู่ค้าสำคัญที่สุดของรัฐบาลเบอร์ลิน

ในปี 2564 เมื่อเรือรบเยอรมนีลำหนึ่งแล่นเข้าสู่ทะเลจีนใต้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี ถูกมองว่าเบอร์ลินกำลังร่วมมือกับชาติตะวันตกขยายแสนยานุภาพทางทหารในภูมิภาคนี้ท่ามกลางเสียงเตือนเรื่องจีนคิดการใหญ่เหนือทะเลจีนใต้

จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด แม้ศาลระหว่างประเทศพิพากษาแล้วว่า รัฐบาลปักกิ่งไม่มีสิทธิตามกฎหมายที่จะอ้างเช่นนั้น อีกทั้งจีนยังตั้งโครงสร้างพื้นฐานทางทหารบนเกาะเทียมในน่านน้ำแห่งนี้ที่อุดมไปด้วยแหล่งก๊าซและแหล่งประมง ขณะที่การค้าต่างประเทศของยุโรปราว 40% กระทำผ่านทะเลจีนใต้