ปีนี้ 'ร้อนสุด' ในรอบ 125,000 ปี! หนาวนี้เริ่มหมดหวังถึงลมหนาว
นักวิทยาศาสตร์ในยุโรปเผยปีนี้จะเป็นปีที่โลกร้อนที่สุดในรอบ 125,000 ปี หลังข้อมูลเดือน ก.ย.-ต.ค. ทุบสถิติร้อนที่สุดในโลก 2 เดือนติดต่อกัน
สถาบันคอเปอร์นิคัส ไคลเมท เชนจ์ เซอร์วิส (C3S) ระบุว่า ค่อนข้างเป็นที่แน่นอนแล้วว่าปี 2566 นี้ จะเป็นปีที่โลกมีสภาพอากาศอบอุ่นที่สุดในรอบ 125,000 ปี หลังจากที่ตัวเลขล่าสุดในเดือน ต.ค. ยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นเดือนตุลาคมที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมาในโลก ซึ่งทำลายสถิติเดิมที่เคยทำไว้เมื่อ 4 ปีก่อน
ซาแมนธา เบอร์เจส รองผู้อำนวยการของ C3S ระบุว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในเดือนที่แล้วเพิ่มสูงขึ้น 0.4% องศาเซลเซียส หรือทำลายสถิติเดิมในปี 2562 ไปแล้ว ซึ่งทำให้เดือน ต.ค. เป็นเดือนที่มีสภาพอากาศผิดปกติอย่างรุนแรง โดยอุณหภูมิความร้อนที่พุ่งสูงขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมของมนุษย์ รวมกับปรากฎการณ์เอลนีโญที่อุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตกสูงขึ้นในปีนี้
โดยเฉลี่ยแล้ว ทั่วโลกมีอุณหภูมิพื้นผิวอากาศสูงขึ้น 1.7 องศาเซลเซียสในเดือน ต.ค. ซึ่งสูงกว่าช่วงปี ค.ศ. 1850-1900 ที่เป็นช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม
ตัวเลขล่าสุดจึงบ่งชี้ด้วยว่าในปีนี้ โลกจะเผชิญสภาพอากาศที่อบอุ่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งจะทุบสถิติเดิมของปี 2559 และจะเป็นอีกปีที่เกิดปรากฎการณ์เอลนีโญขึ้น
เบอร์เจส กล่าวว่า เมื่อรวบรวมข้อมูลที่ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1940 รวมเข้ากับข้อมูลจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ของสหประชาชาติ จะได้ข้อมูลที่บ่งชี้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่อากาศอบอุ่นที่สุดในรอบ 125,000 ปี โดย IPCC ยังใช้ฐานข้อมูลกว้างขึ้นที่มาจากแกนน้ำแข็งในแอนตาร์กติกา วงปีต้นไม้ และแนวปะการังอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ทีมนักวิทยาศาสตร์ก็เพิ่งเปิดเผยข้อมูลว่าเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา เป็นเดือนที่ร้อนสุดทุบสถิติที่เคยมีมาเช่นกัน
