3 ชีวิตสังเวยระเบิดภาคใต้ฟิลิปปินส์กลางพิธีคริสต์

3 ชีวิตสังเวยระเบิดภาคใต้ฟิลิปปินส์กลางพิธีคริสต์

เกิดเหตุระเบิดโจมตีกลางพิธีคริสต์คาธอลิกทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน บาดเจ็บหลายสิบคน ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส กล่าวโทษ “ผู้ก่อการร้ายต่างชาติ”

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน นายอัลลัน โนเบิลซา ผู้บังคับการตำรวจมินดาเนา เผยว่า มีคนปาระเบิดแสวงเครื่องเข้าไปในพิธีทางศาสนาคริสต์ที่จัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ ณ โรงยิมเนเซียมมหาวิทยาลัยมินดาเนา ในเมืองมาราวี ชุมชนมุสลิมใหญ่สุดของฟิลิปปินส์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 40 คน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว โดยตำรวจกำลังสอบสวนเหตุระเบิดว่าเป็นการโจมตีแก้แค้น ที่กองทัพฟิลิปปินส์โจมตีทางอากาศคร่าชีวิตกลุ่มติดอาวุธดาว์ลาห์ อิสลามิยะห์ 11 คนในมินดาเนา เมื่อวันศุกร์ (30 พ.ย.) หรือไม่

มหาวิทยาลัยมินดาเนาออกแถลงการณ์ประณาม “การกระทำรุนแรง” พร้อมประกาศงดการเรียนการสอน ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้ามาเพิ่มเติม

“เราขอยืนเคียงข้างชุมชนคริสเตียนของเรา และทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้” แถลงการณ์มหาวิทยาลัยระบุ 

เฟซบุ๊ครัฐบาลท้องถิ่น จ.ลาเนา เดล ซูร์ เผยภาพเก้าอี้พลาสติกและเศษซากกระจัดกระจายบนพื้นโรงยิม

นายคริส จูราโด นักศึกษามหาวิทยาลัย วัย 21 ปี เผยกับเอเอฟพีจากโรงพยาบาลว่า ระเบิดเกิดขึ้นระหว่างการอ่านไบเบิลบทแรกในการทำพิธีมิสซาเช้า 7.00 น.

“มันกะทันหันมาก ทุกคนวิ่งกระเจิง ผมหันไปมองข้างหลังเห็นคนนอนอยู่บนพื้น เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างเร็วมาก”

 

โรเวนา เม เฟอร์นันเดซ วัย 19 ปี เล่าจากโรงพยาบาลเช่นกันไม่รู้ว่าเกิดระเบิดตอนที่คนอื่นๆ เริ่มวิ่ง

“เพื่อนฉันและฉันต่างก็วิ่ง สะดุดล้มครั้งนึงด้วย จำได้แค่นี้แหละ จนกระทั่งออกจากโรงยิมฉันล้มอีก เพื่อนๆ ฉันร้องไห้เพราะเห็นฉันบาดเจ็บ”

ประธานาธิบดีมาร์กอสประณามการโจมตีโดย “ผู้ก่อการร้ายต่างชาติ” ว่า “ชั่วร้ายและไร้เหตุผล”

นายมาจุล กันดัมรา นายกเทศมนตรีเมืองมาราวี ขอให้ชาวมุสลิมและชาวคริสต์ยังคงสามัคคีกัน

“เมืองของเราเป็นสัญลักษณ์ของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและกลมกลืนมานาน เราจะไม่อนุญาตให้การกระทำรุนแรงดังกล่าวบดบังพันธะสัญญาต่อสันติภาพและเอกภาพร่วมกันของเรา”

เมื่อวันเสาร์ (1 ธ.ค.) กองทัพเผยว่า กลุ่มดาว์ลาห์ อิสลามิยะห์ ฟิลิปปินส์ กำลังวางแผนระดมโจมตีใน จ. มากินดาเนาเดลซูร์

ขณะที่นายโนเบิลซากล่าวเพิ่มเติมว่า การสอบสวนอีกแนวทางหนึ่งของตำรวจคือ กลุ่มติดอาวุธเมาเตและอาบูไซยาฟเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่

ในอดีตเมืองมาราวี เคยถูกนักรบต่างชาติและท้องถิ่นที่สนับสนุนกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ยึดไว้ เมื่อเดือน พ.ค.2560 กองทัพฟิลิปปินส์ต้องใช้เวลาต่อสู้ห้าเดือนกว่าจะยึดเมืองคืนได้ ประชาชนเสียชีวิตกว่า 1,000 คน

ทั้งนี้ จ.ลาเนาเดลซูร์และมากินดาเนาเดลซูร์อยู่ในเขตปกครองตนเองบังซาโมโรในมินดาเนา ที่ได้รับสิทธิปกครองตนเองภายใต้ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ส่วนหนึ่งของความพยายามกำจัดลัทธิสุดโต่ง

นายอาฮอด เอบราฮิม มุขมนตรีรัฐบาลบังซาโมโร ประณาม “การกระทำเหี้ยมโหดและขี้ขลาด” พร้อมเรียกร้องให้สอบสวนเหตุที่เกิดขึ้นโดยละเอียด

หลายสิบปีที่ผ่านมากลุ่มติดอาวุธเคยโจมตีรถบัส โบสถ์คาธอลิก ตลาดในภูมิภาคนี้บ่อยครั้ง จนกระทั่งปี 2557 รัฐบาลมะนิลาลงนามข้อตกลงสันติภาพกับแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร ยุติการก่อกบฏนองเลือด

แต่กลุ่มนักรบอิสลามกลุ่มเล็กกว่าที่ไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงสันติภาพยังมีอยู่ เช่น กลุ่มที่สาบานตนภักดีกับไอเอส อีกทั้งกบฏคอมมิวนิสต์ยังเคลื่อนไหวในพื้นที่ด้วย