ไบเดนชงขึ้นภาษีเหล็กจีน ‘3 เท่า’ ปกป้องธุรกิจเหล็กชาติ ดึงฐานเสียงแรงงาน
สหรัฐงัดไม้แข็ง เตรียมพิจารณาขึ้นภาษีศุลกากรเหล็กจากจีน “สูงกว่าเดิม 3 เท่า” หวังปกป้องธุรกิจเหล็กในชาติ และดึงคะแนนเสียงจากสหภาพแรงงานในศึกเลือกตั้งสหรัฐ
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมพิจารณาขึ้นกำแพงภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจาก "จีน" สูงกว่าเดิม 3 เท่า โดยชงเรื่องให้ แคทเธอรีน ไท่ ผู้แทนการค้าของสหรัฐดำเนินการพิจารณา เพื่อหวังปกป้องธุรกิจเหล็กในประเทศและช่วยดึงคะแนนเสียงจากกลุ่มสหภาพแรงงานซึ่งอยู่ในรัฐเพนซิลเวเนียเป็นจำนวนมาก โดยถือเป็น “รัฐสวิงสเตท” ที่ประชากรไม่ได้ปักใจเลือกพรรคใด แต่สามารถพลิกไปมาระหว่าง “พรรคเดโมแครต” หรือ “พรรครีพับลิกัน” ได้เสมอ จึงเป็นสนามแข่งที่ดุเดือดอย่างมาก
สำหรับภาษีที่สหรัฐจะปรับขึ้น 3 เท่านั้น เป็นการขึ้นจากระดับปัจจุบันที่ 7.5% อีกทั้งผู้แทนการค้าสหรัฐยังเตรียมสืบสวนอุตสาหกรรมเหล็กของจีน ตามคำร้องของสหภาพ United Steelworkers
“พวกเราต้องลงทุนในภาคการผลิตของสหรัฐ และขณะเดียวกันก็ต้องปกป้องการลงทุนและแรงงานจากสินค้าจีนที่ทะลักเข้ามาอย่างไม่ยุติธรรม” ลาเอล เบรนาร์ด ที่ปรึกษาเศรษฐกิจแห่งชาติของทำเนียบขาวกล่าว
ขณะเดียวกัน เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังของสหรัฐก็แสดงความวิตกถึงสินค้าจีนท่วมตลาดในระหว่างช่วงที่เยือนกรุงปักกิ่งของจีนในเดือนนี้
ข้อมูลจากธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ ระบุว่า ปริมาณการส่งออกของจีนพิ่มขึ้น 14% ในไตรมาส 1 เมื่อเทียบปีก่อนหน้า ถึงแม้ว่ามูลค่าส่งออกจะลดลง 12% ก็ตาม
นอกจากนี้ ในช่วงเดือน ก.พ. ปีนี้ ไบเดนได้สั่งการสืบสวนรถยนต์จากจีนว่ามีการติดเครื่องดักฟังหรือแอบเก็บข้อมูลเจ้าหน้าที่สหรัฐ เพื่อส่งกลับให้รัฐบาลปักกิ่งหรือไม่
อ้างอิง: ft