อานิสงส์วีซ่าฟรี หนุน ‘ไทย’ เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว ครองใจ ‘ชาวจีน’ ในฤดูร้อน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กเผย ญี่ปุ่นและไทย เป็นจุดหมายปลายทางในเอเชียอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวจีนที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศในฤดูร้อนนี้

Cirium เว็บไซต์วิเคราะห์ตั๋วเที่ยวบิน ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากแพลตฟอร์ม ForwardKeys และยอดจองเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในเว็บไซต์ต่าง ๆ พบว่า เกาหลีใต้และญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าเงินวอนและเงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์

แต่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างมาเลเซียและไทย มีนักท่องเที่ยวจากจีนเพิ่มขึ้น เพราะการออกนโยบายวีซ่าฟรี และมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าประเทศอื่น ๆ

9 อันดับจุดหมายปลายทางในเอเชียที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจีน

1.ญี่ปุ่น

2.ไทย

3.เกาหลีใต้

4.ฮ่องกง

5.สิงคโปร์

6.มาเลเซีย

7.ไต้หวัน

8.เวียดนาม

9.มาเก๊า

ที่มา: Cirium โดยจัดอันดับจากปริมาณการเดินทางจากจีนไปต่างประเทศในช่วงฤดูร้อน

การกลับไปเที่ยวต่างประเทศ (ที่เป็นเมืองท่องเที่ยว) ของนักท่องเที่ยวจีน กำลังเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนและการใช้จ่ายของคนจีนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ ได้

ที่ผ่านมามีคาดการณ์เกี่ยวกับการกลับไปเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนว่า อาจกลับไปสู่ระดับก่อนการแพร่ระบาดโควิดได้แตกต่างกันไป ขณะที่บางบริษัท รวมถึงฟิตช์กรุ๊ป (Fitch Group) เผยว่า นักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงรัดเข็มขัดด้านการใช้จ่าย

อย่างไรก็ดี จากยอดจองและยอดการค้นหา (เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว) แสดงให้เห็นว่า ชาวจีนยังมีความต้องการไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น โดยแพลตฟอร์ม ทริป.คอม มียอดจองเที่ยวบินเดินทางออกจากจีนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งยอดขายเกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงวันหยุดยาว มีสัดส่วนมากถึง 50% ของยอดจองทั้งหมด

ขณะที่สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (World Travel & Tourism Council: WTTC) คาดการณ์เมื่อต้นเดือนมิ.ย.ว่า

ผู้เดินทางไปเที่ยวในวันหยุดจะใช้เงินไปกับการท่องเที่ยวในต่างประเทศสูงถึง 1.8 ล้านล้านหยวนในปีนี้ ซึ่งถือว่ามากกว่าระดับการใช้จ่ายในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เป็นครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ออกไปเที่ยวต่างประเทศยังไม่เทียบเท่าช่วงปี 2562 และจากการวิเคราะห์จำนวนตั๋วเที่ยวบินตั้งแต่ 7 มิ.ย. ของแพลตฟอร์ม ForwardKeys พบว่า จุดหมายปลายทางระดับภูมิภาคช่วงฤดูร้อนเดือน มิ.ย.- ส.ค. อาจฟื้นตัวเพียง 80% ของระดับในปี 2562 และมีเพียง 2 ประเทศในเอเชียที่อาจมีนักท่องเที่ยวจีนเกินกว่าระดับในปี 2562 ได้แก่ สิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยนักท่องเที่ยวจีนในสิงคโปร์อาจเพิ่มขึ้น 15% ขณะที่มาเลเซียอาจเพิ่มขึ้น 32%

นอกจากนี้ ประเทศในเอเชียที่ปรับใช้นโยบายวีซ่าฟรี ก็มียอดจองด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเช่นกัน 

Tongcheng Travel เว็บไซต์จองโรงแรมและการเดินทางแบบออนไลน์ เผยว่า ประเทศไทยและสิงคโปร์ เป็นจุดหมายปลายทางช่วงสุดสัปดาห์ที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน

เข้าง่าย เที่ยวง่าย ใช้งบน้อย 

ผลของการผ่อนปรนข้อกำหนดด้านวีซ่าทำให้ “เบลลา หวง” ครูชาวจีนที่แฟนคลับละครไทย วัย 27 ปี จากมณฑลเจียงซู วางแผนเดินทางเที่ยวไทย ในเดือน ส.ค. กับเพื่อน ๆ โดยการเดินทางมายังไทยเป็นการเดินทางไปต่างประเทศของแรกและครั้งเดียวของหวงในปีนี้ และเธอมีงบสำหรับท่องเที่ยวราว 8,000 หยวน (ราว 40,000 บาท)

หวงเป็นชาวจีนที่ไม่มีแผนเดินทางไปยุโปเลยในปีนี้ เนื่องจากการเดินทางไปยุโรปมีความยากลำบากในการขอวีซ่า

จีนจ่อเที่ยวยุโรปเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Cirium และทริป.คอม บ่งชี้ว่า จุดหมายปลายทางในยุโรปบางแห่งอาจมีนักท่องเที่ยวจีนไปเยือนมากขึ้น อาทิ เบลเยียม, อังกฤษ, และอิตาลี ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ชาวจีนชื่นชอบเป็นอันดับต้น ๆ ในยุโรป

นอกจากนี้ ผู้ที่เดินทางไปยังประเทศในยุโรป มักต้องการเที่ยวบินเดินทางที่สะดวกสบาย ดังนั้น นักเดินทางที่มุ่งไปยังกรุงโรม, กรุงลอนดอน, เมืองมิลาน, กรุงมาดริด, กรุงบรัสเซลส์ และกรุงบาร์เซโลนา ต่างหันมาทุ่มเงินซื้อที่นั่งพรีเมียมมากกว่าที่เคยทำในปี 2562 ขณะที่ที่นั่งชั้นประหยัดที่มุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางยอดนิยมในยุโรป ยังไม่กลับไปสู่ระดับก่อนเกิดโควิด

ส่วนจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเกินกว่าระดับในปี 2562 แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลบางอย่างจากภูมิรัฐศาสตร์ โดยตุรกี ฮังการี อุซเบกิสถาน จอร์เจีย ซาอุดี อาระเบีย เติร์กเมนิสถาน และคาซัคสถาน ที่เป็นจุดหมายปลายทางที่นิยมของชาวจีน อาจมีการเติบโตด้านการท่องเที่ยวจากชาวจีนมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มประเทศดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มสายแถบและเส้นทาง

โดยนักท่องเที่ยวจีนที่ไปเยือนฮังการีอาจเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากขีดความสามารถด้านการบริการเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 6 เท่า ซึ่งเติบโตมากที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาประเทศอื่น ๆ ที่เป็นมิตรกับจีนข้างต้น เนื่องจากเป็นการเติบโตจากฐานที่ต่ำ

 

อ้างอิง: Bloomberg