ดินถล่มทางตอนใต้ 'เอธิโอเปีย' ประชาชนเสียชีวิตกว่า 200 ส่วนใหญ่เป็นทีมช่วยเหลือ
เอธิโอเปียเกิดเหตุดินถล่ม 2 ครั้ง เมื่อวันจันทร์ (22 ก.ค.) ประชาชนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 200 กว่าราย ส่วนใหญ่เป็นทีมช่วยเหลือ
สำนักข่าวอัลจาซีรา รายงานว่า เหตุดินถล่มในเขต Kencho-Shacha ทางตอนใต้ของเอธิโอเปีย คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 200 ราย
เจ้าหน้าที่รายงานเมื่อวันอังคาร (23 ก.ค.) ว่าเขต Kencho-Shacha ในพื้นที่โกฟา (Gofa) ซึ่งอยู่ห่างไกลไปทางตอนใต้ของเอธิโอเปีย เกิดฝนตกหนักจนส่งผลให้ดินถล่มครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ (22 ก.ค.) และเกิดขึ้นครั้งที่สองในขณะที่ผู้คนกำลังเข้าไปให้ความช่วยเหลือในพื้นที่
ฝ่ายกิจการสื่อสารในท้องถิ่นระบุในแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า มีผู้เสียชีวิตเป็นชายอย่างน้อย 148 ราย และเป็นหญิงอย่างน้อย 81 ราย
ดาเกมาวี อาเยล เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผย ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกฝังอยู่ใต้ดินที่ถลมลงมา หลังเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในครั้งนี้ อาทิ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ครู ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร
เกมัล ฮาชิ โมฮามูด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เผยกับอัลจาซีราว่า เหตุดินถล่มครั้งที่ 2 เกิดขึ้นห่างกับเหตุดินถล่มครั้งแรกเพียงไม่กี่นาที ซึ่งตอนนั้นหลายคนกำลังเตรียมที่หลบภัยและแจกอาหาร
อะเลมาเยฮู บาวดี โฆษกรัฐทางตอนใต้ของเอธิโอเปีย เผย เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือในพื้นที่ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ พื้นที่โกฟาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐ Southern Nations, Nationalities and Peoples’ Region (SNNPR) ห่างจากเมืองหลวงแอดดิสอาบาบา ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 320 กิโลเมตร
ตามข้อมูลของสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ(OCHA) ระบุ รัฐดังกล่าวได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักตามฤดูกาลในระหว่างเดือน เม.ย. และ พ.ค. จึงทำให้เกิดน้ำท่วมและผุ้คนต้องอพยพครั้งใหญ่
เมื่อเดือน พ.ค. รัฐดังกล่าวเกิดน้ำท่วม กระทบที่อยู่อาศัยของผู้คนมากกว่า 19,000 คน ประชาชนต้องพลัดถิ่นหลายพันคน โครงสร้างพื้นฐานเสียหายและกระทบกับการดำรงชีวิตของผู้คน
อนึ่ง ภูมิภาคทางตอนใต้ของเอธิโอเปียเคยเผชิญกับภัยพิบัติดินถล่มมาก่อนเมื่อปี 2561 ครั้งนั้นคร่าชีวิตผู้คนไป 32 ราย หลังเกิดภัยพิบัติสองครั้งใน 1 สัปดาห์
อ้างอิง: Al Jazeera