ยอดขาย LVMH ไตรมาส 2 ต่ำกว่าคาด โต 1% เหตุตลาดจีนซบเซา
ยอดขาย LVMH ชะลอตัวลงในไตรมาส 2 สู่ระดับ 20,980 โดยเติบโตเพิ่มขึ้นเพียง 1% ต่ำกว่าที่นักวิเคระาห์คาดการณ์ เหตุชาวจีนควบคุมการใช้จ่ายสินค้าแฟชั่นระดับไฮเอนด์
ยอดขาย LVMH เติบโตชะลอตัวลงในไตรมาส 2 เนื่องจากนักชอปชาวจีนควบคุมการใช้จ่ายสินค้าแฟชั่นระดับไฮเอนด์ภายในประเทศ สวนทางตลาดในตะวันตกที่ยอดขายเริ่มขยับขึ้นเล็กน้อยแล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ยอดขายกลุ่มธุรกิจลักชัวรี รายใหญ่ที่สุดของโลก และเจ้าของแบรนด์ หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton), ทิฟฟานีแอนด์โค (Tiffany & Co) และเฮนเนสซี่ (Hennessy) เติบโตสู่ระดับ 20,980 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นเพียง 1% เนื่องจากผลกระทบเกี่ยวกับค่าเงินและการเข้าซื้อกิจการ
ขณะที่ไตรมาสแรกยอดขายเติบโต 3% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี และยอดขายเคยเติบโตถึงสองหลักในปี 2566 เมื่อลูกค้าในจีน ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของบริษัทใช้จ่ายสินค้าหรูหราอย่างกระหน่ำ หลังเป็นอิสระจากการล็อกดาวน์โควิด-19
ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานในครึ่งปีแรกแตะระดับ 10,650 ล้านยูโร โดยมีอัตราทำกำไรอยู่ที่ 25.6% ซึ่งลดลงจากปีก่อน 27.4% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์จาก Visible Alpha คาดการณ์ไว้ 11,110 ล้านยูโร และมีอัตราทำกำไรที่ 26.2%
ส่วนกลุ่มธุรกิจแฟชั่นและสินค้าประเภทหนัง รวมทั้งหลุยส์ วิตตอง และ คริสเตียนดิออร์ มียอดขายเกือบครึ่งหนึ่งของยอดขายทั้งหมดในบริษัท และมีกำไรจาการดำเนินงานเติบโต 1% ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนหน้าเล็กน้อย ซึ่งไตรมาส 1 กำไรเติบโต 2%
รายงานเปิดเผยยอดขายจากกลุ่ม ธุรกิจ LVMH ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อันดับสองในยุโรปที่มีมูลค่าราว 340,000 ล้านยูโรนั้น สอดคล้องกับผลกำไรของแบรนด์เบอร์เบอรี่ (Burberry) และฮิวโก้ บอส (Hugo Boss) ที่เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเบอร์เบอรี่ ยอดขายร่วงกว่า 20% ขณะที่ฮิวโก้บอส ยอดขายลดลง 1% ในไตรมาสสอง
แม้ ยอดขาย LVMH ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ 21,600 ล้านยูโร ซึ่งคาดการณ์นี้มาจากโพลของ LSEG ที่สำรวจจากนักวิเคราะห์ 6 คน แต่ "ลูกา โซลกา" นักวิเคราะห์จาก Bernstein บอกว่า ปัญหาดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ เมื่อเทียบยอดขายที่ไม่ตรงตามคาดการณ์เพียงเล็กน้อย และการดีดกลับ (pullback) ของ ราคาหุ้น LVMH
ทั้งนี้ หุ้น LVMH อ่อนไหวตั้งแต่ตลาดสินค้าลักชูรีชะลอตัว และร่วงราว 20% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลว่าขาชอประดับชนชั้นกลางในเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลกอย่างจีน อาจระงับการซื้อสินค้าหรู เนื่องจากสินทรัพย์ราคาตกต่ำ และไม่มีความมั่นคงทางอาชีพ
ขณะที่ยอดขายในตลาดเอเชีย รวมถึงตลาดญี่ปุ่น ลดลง 14% ในไตรมาสสอง และตกต่ำกว่าไตรมาสแรก 6% แต่ยอดขายใน “ญี่ปุ่น” ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลไปชอปเพราะ เงินเยน อ่อนค่า
ฌอง-ฌากส์ กีโอนี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของ LVMH เผยว่า บริษัทเผยคาดการณ์แนวโน้มตลาดจีนได้ยาก แต่ลูกค้าจีนยังคงมีกำลังซื้ออยู่
“เราเห็นนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมาก โดยเฉพาะในญี่ปุ่น บ่งบอกถึงความหิวกระหายของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่ยังไม่มีทาทีว่าจะหมดไป” กีโอนี กล่าว และว่า การทำธุรกิจกับลูกค้าในตลาดสหรัฐและยุโรปก็ดีขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่พุ่งสูงขึ้นในญี่ปุ่น สร้างแรงกดดันต่ออัตรากำไรขั้นต้นอย่างมาก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายและราคาที่ต่ำกว่าสินค้าในจีน