'สหรัฐ' เตรียมส่งเรือ-เครื่องบินรบไปตะวันออกกลางเพิ่ม รับมือภัยจากอิหร่านและพวก

'สหรัฐ' เตรียมส่งเรือ-เครื่องบินรบไปตะวันออกกลางเพิ่ม รับมือภัยจากอิหร่านและพวก

กระทรวงกลาโหมสหรัฐเผยเมื่อวันศุกร์ (2 ส.ค.) ว่า กองทัพสหรัฐเตรียมส่งเครื่องบินรบและเรือรบเพิ่มเติมไปยังตะวันออกกลาง เพื่อเสริมการป้องกันภัยคุกคามจากอิหร่าน และพันธมิตรอย่างฮามาสและฮิซบอลเลาะห์

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า สหรัฐ กำลังเตรียมรับมือกับคำมั่นสัญญาของ อิหร่าน ว่าจะตอบโต้ อิสราเอล ที่สังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของฮามาสในกรุงเตะรานเมื่อ 2-3 วันก่อน (แต่อิสราเอลไม่ได้ออกมายอมรับปฏิบัติการดังกล่าว) รวมถึงเตรียมกับมือกับการตอบโต้การสังหาร โมฮัมเหม็ด เดอิฟ ผู้บัญชาการกองกำลัง ฮามาส และการสังหารผู้นำ ฮิซบอลเลาะห์ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า ความขัดแย้งในตะวันออกกลางอาจบานปลายมากขึ้น

ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้อนุมัติการส่งมอบเรือรบและอาวุธต่าง ๆ เพิ่มเติมที่สามารถสกัดขีปนาวุธ ให้กับตะวันออกกลางและยุโรป ทั้งยังส่งเครื่องบินขับไล่ไอพ่นเพิ่มอีกหลายลำไปยังตะวันออกกลาง

เพนตากอน ระบุในแถลงว่า

“ออสตินได้สั่งให้ปรับเปลี่ยนท่าทีของกองทัพสหรัฐ เสริมการป้องกันทางทหารเพื่อเพิ่มการสนับสนุนการป้องกันประเทศของอิสราเอล และเพื่อให้มั่นใจว่าสหรัฐเตรียมรับมือกับเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ได้”

มีคาดการณ์ว่า เพนตากอนอาจไม่เข้ามาแทนที่กองเรือโจมตี USS Theodore Roosevelt ในตะวันออกกลาง เมื่อสิ้นสุดการประจำการอย่างต่อเนื่อง แต่ออสตินตัดสินใจเปลี่ยนให้กองเรือโจมตี USS Abraham Lincoln ไปแทนที่กองเรือดังกล่าว

แถลงจากเพนตากอนระบุเสริมว่า หน่วยงานจะเพิ่มความพร้อมในการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธภาคพื้นมากขึ้น

ที่ผ่านมา สหรัฐได้เพิ่มการติดตั้งระบบดังกล่าวจำนวนมากก่อนวันที่ 13 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่อิหร่านโจมตีอิสราเอลด้วยโดรนและขีปนาวุธหลายลูก เพื่อตอบโต้อิสราเอลที่โจมตีสถานกงสุลอิหร่านในซีเรีย

ด้านทำเนียบข่าวรายงานว่า ในการพูดคุยผ่านโทรศัพท์ระหว่าง ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรอิสราเอล ไบเดนได้หารือเกี่ยวกับการติดตั้งระบบป้องกันทางทหารใหม่ เพื่อสนับสนุนอิสราเอลต่อต้านภัยคุกคามต่าง ๆ

ขณะที่ภัยคุกคามจากฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนยังคงเป็นความท้าทายสำคัญต่อความพยายามของสหรัฐในการสกัดกั้นโดรนและขีปนาวุธจากคลังแสงของฮิซบอลเลาะห์ที่อยู่ใกล้กับอิสราเอล

 

อ้างอิง: Reuters