"กาตาร์" ออริกซ์อาระเบีย และไข่มุกแห่งเปอร์เซีย | World Wide View

"กาตาร์" ออริกซ์อาระเบีย และไข่มุกแห่งเปอร์เซีย | World Wide View

ออริกซ์อาระเบีย เป็นสัตว์ประจำชาติของประเทศกาตาร์ ลักษณะเด่นคือ มีความสง่างามและอดทน บ่งบอกลักษณะของคนกาตาร์ นอกจากนี้กาตาร์ยังมีอาชีพสำคัญที่เคยสร้างรายได้มากมายคือการงมเก็บหอยมุกในทะเล

ออริกซ์อาระเบีย (Arabian Oryx) เป็นสัตว์ในตระกูล antelope ประเภทหนึ่ง (คือสัตว์ตระกูลเขาเกลียวที่หน้าตาคล้ายกวาง แต่ตามการแบ่งวงศ์แล้วจะคล้ายไปทางวัวมากกว่า) ที่มีมากในทะเลทรายอาระเบีย ลักษณะเขายาวคล้ายหอก ลำตัวสีขาวหรือน้ำตาลอ่อน หน้ามีแถบดำคาด ถือเป็นสัตว์ประจำชาติของประเทศกาตาร์ โดยคนกาตาร์ใช้เจ้าออริกซ์นี้มาเป็นสัญลักษณ์ นอกจากเพราะมีอยู่แพร่หลายในแถบประเทศตนแล้ว ยังมีลักษณะเด่นคือ มีความสง่างามและอดทน บ่งบอกลักษณะของคนกาตาร์

\"กาตาร์\" ออริกซ์อาระเบีย และไข่มุกแห่งเปอร์เซีย | World Wide View

"กาตาร์" เป็นประเทศในตะวันออกกลางที่มีลักษณะดินแดนรูปร่างแปลก คือเป็นแหลมวงรียื่นไปในอ่าวเปอร์เซีย นักเขียนชาวโรมันเคยเขียนถึงดินแดนบริเวณนี้โดยเรียกว่า Catharrei ซึ่งเป็นพื้นเสียงให้เรียกชื่อประเทศนี้จนถึงปัจจุบัน 

เมืองหลวงของกาตาร์คือโดฮา ซึ่งคนอาหรับพื้นถิ่นจะออกเสียงว่า ดูฮา แปลว่า รุ่งอรุณ สะท้อนให้เห็นว่า พระอาทิตย์และความสงบยามเช้ามีอิทธิพลและเป็นธรรมชาติของคนแถบนี้

กาตาร์มีสถิติโดยคร่าวที่น่าสนใจ คือเป็นประเทศที่มีขนาดเพียงประมาณจังหวัดเชียงรายของเรา มีประชากรทั้งประเทศแค่ราว 2.7 ล้านคน แต่เป็นคนกาตาร์จริง ๆ เพียงประมาณ 3 แสนคนเศษเท่านั้น ที่เหลือเป็นคนต่างชาติที่เข้ามาอยู่อาศัยและทำงาน แต่แม้เป็นประเทศเล็ก กาตาร์กลับได้รับพรจากพระเจ้าคือ มีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยเฉพาะก๊าซนั้น มีทั้งปริมาณสำรองและการผลิตเพื่อส่งออกมากเป็นอันดับ Top 3 ของโลก ทำให้กาตาร์นับเป็นประเทศที่ร่ำรวยมาก มี GDP ต่อประชากรสูงอันดับต้นของโลกเช่นกัน 

ด้วยความมั่งคั่งดังกล่าว ทำให้กาตาร์ดูแลประชากรของตัวเองได้สบาย โดยคนที่นี่ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ เวลาซื้อของก็ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ของกินของใช้ส่วนใหญ่ต้องนำเข้าแทบทั้งสิ้น ทำให้แม้ไม่มีภาษีแต่ข้าวของก็ไม่ได้ถูกนัก ราคาโดยเฉลี่ยสูงกว่าบ้านเราประมาณ 2 เท่า แต่น้ำมันถูกกว่าบ้านเราประมาณครึ่งหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งที่รัฐบาลกาตาร์ดูแลประชากรของตัวเองอย่างดีจนน่าตกใจก็คือ หากใครรับราชการ หลวงจะให้ที่มาปลูกบ้านผืนหนึ่ง พร้อมเงินช่วยเหลือในการปลูกบ้านอีกราว 2 ล้านรียัล หรือประมาณ 20 ล้านบาท!!

แม้ภาพลักษณ์ของกาตาร์จะเป็นประเทศทะเลทราย แต่ด้วยความที่ดินแดนโอบล้อมด้วยอ่าวเปอร์เซีย หนึ่งในธุรกิจสำคัญที่เคยสร้างรายได้ให้แก่ชาวกาตาร์อย่างมากในยุคแรก ๆ คือการงมเก็บหอยมุกในทะเล แต่ธุรกิจดังกล่าวเริ่มสั่นคลอนอย่างรุนแรงเมื่อชายชาวญี่ปุ่นนามว่า Mikimoto Kokichi ได้ค้นพบวิธีการเลี้ยงหอยมุก และทำให้มุกเลี้ยงออกมาเกลื่อนตลาดจนราคาไข่มุกตกต่ำลงมาก แต่เมื่อกาตาร์ขุดพบน้ำมันเมื่อปี 1939 วิถีชีวิตและอนาคตของคนกาตาร์ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

บ้านเรือนในปัจจุบันของกาตาร์ โดยเฉพาะในโดฮามีความสะอาดสะอ้าน ตึกรามใหญ่โตโอ่โถง หลายตึกมีการออกแบบได้สวยงามสะดุดตา จนชวนนึกไปว่านักท่องเที่ยวที่มาเยือน เพียงแค่ไปตามถ่ายรูปตึกสวยต่าง ๆ ในกาตาร์ก็สนุกแล้ว ถนนหนทางที่นี่ก็เรียบกริบขับรถได้สบาย ที่สำคัญคือไม่ค่อยมีรถติด แม้จะเป็นชั่วโมงเร่งด่วน ก็อาจมีเพียงแค่ชะลอตามสัญญาณไฟบ้าง แต่ตามมาตรฐานของเมืองไทยต้องถือว่านี่คือสวรรค์ของการจราจร

แม้จะเป็นประเทศที่ร่ำรวย แต่การดำเนินการด้านการระหว่างประเทศของกาตาร์บางประการ ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศไม่เห็นด้วยและบอยคอตกาตาร์อย่างรุนแรงถึงขนาดปิดน่านฟ้า น่านน้ำ และช่องทางบกไม่ให้เครื่องบิน รถ เรือของกาตาร์ผ่านได้อยู่เกือบ 4 ปี ระหว่างปี 2017-2021 เกิดเป็นความเขม็งเกลียวทางการทูตครั้งสำคัญในหมู่ประเทศมุสลิม อย่างไรก็ตาม ปัญหาต่าง ๆ ก็คลี่คลายลงด้วยดี โดยจบลงก่อนกาตาร์จะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2022 ไม่เช่นนั้นความบาดหมางทางการทูต ก็อาจลุกลามไปสู่วงการกีฬาได้

เรื่องการดำเนินการนโยบายทางการทูตหรือการระหว่างประเทศนั้น จะบอกว่าใครผิดใครถูกเป็นเรื่องพูดยาก เพราะแต่ละประเทศต่างก็ดำเนินการเพื่อผลประโยชน์แห่งชาติของตนทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม กาตาร์ก็ยืนหยัดตามแนวทางของตนจนประเทศต่าง ๆ เข้าใจ (หรือพยายามเข้าใจ) และผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาได้ จนปฏิเสธไม่ได้ว่า ประเทศเล็ก ๆ อย่างกาตาร์ได้กลายเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน และกาตาร์ก็ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสง่างามและอดทน สมกับเป็นออริกซ์แห่งเวิ้งทะเลทรายอาระเบีย