‘โพนี่ หม่า’ ซีอีโอ ‘เทนเซ็นต์’ คืนบัลลังก์รวยสุดในจีน หลังธุรกิจเกมผงาด
‘โพนี่ หม่า’ ซีอีโอ ‘เทนเซ็นต์’ คืนบัลลังก์ ‘มหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง’ ของจีนอีกครั้ง! มั่งคั่ง 1.4 ล้านล้านบาท หลังอุตสาหกรรมเกมจีนฟื้น ดันธุรกิจ ‘เกมมือถือ’ ผงาด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “โพนี่ หม่า” ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทนเซ็นต์ โฮลดิ้ง (Tencent Holdings) ทวงบัลลังก์ความมั่งคั่งกลับมาเป็น “มหาเศรษฐีจีน” อันดับ 1 บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในจีนได้อีกครั้ง จากการนำบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“โพนี่ หม่า” ผู้ก่อตั้ง Tencent ขยับขึ้นมาเป็น มหาเศรษฐี เบอร์ 1 ของจีนด้วยทรัพย์สินสุทธิสูงถึง 44,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.4 ล้านล้านบาท) แซงหน้า “จงซานซาน” เจ้าของแบรนด์น้ำแร่ หนงฟู่ (Nongfu Spring) ที่หล่นไปอยู่อันดับ 3 ขณะที่ “จางอี้หมิง” ผู้ก่อตั้ง ByteDance เจ้าของ TikTok ยังคงรักษาอันดับสอง 2 ไว้ได้ หลังจากหุ้นที่จดทะเบียนในฮ่องกงหลายตัวปรับตัวลดลง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง อันดับมหาเศรษฐีจีน ครั้งใหญ่
ธุรกิจเกมผงาด
ความมั่งคั่งของ โพนี่ หม่า ผู้ก่อตั้ง Tencent พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาที่ผ่านมา จากความสำเร็จของ “เกมมือถือ” ชื่อดังอย่าง DnF Mobile และเกม Black Myth: Wukong เกมแอ็กชัน RPG ที่เนื้อเรื่องดัดแปลงมาจากวรรณคดีจีนเรื่องไซอิ๋ว พร้อมกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเกมในจีน ซึ่งเป็นตลาดเกมบนมือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลก
นอกจากนี้ การได้รับการสนับสนุนจาก นโยบายรัฐบาลจีน ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ Tencent ก้าวขึ้นมาสู่ระดับที่ได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังจากที่รัฐบาลจีนผ่อนปรนมาตรการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่เข้มงวดมาเกือบ 2 ปี ทำให้ความมั่งคั่งของโพนี่ หม่าพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว การผ่อนคลายกฎระเบียบดังกล่าวช่วยฟื้นความเชื่อมั่นให้นักลงทุน และผู้ประกอบการในภาคเทคโนโลยีของจีน
โพนี่ หม่า ถือเป็นตัวแทนของ มหาเศรษฐีจีนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับ การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคชาวจีนที่ต้องการมากกว่าแค่สินค้า และบริการ แต่ต้องการประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ด้วย ผลิตภัณฑ์ และบริการของ Tencent ไม่ว่าจะเป็น WeChat, QQ หรือเกมออนไลน์ ต่างก็มุ่งเน้นไปที่การสร้างชุมชนออนไลน์ และเชื่อมต่อผู้คนเข้าด้วยกัน
หม่าก่อตั้ง Tencent ขึ้นในปี 2541 กลายเป็นบริษัทผลิตเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของโลก และ Tencent มีการซื้อหุ้นของบริษัทต่างๆ เช่น Tesla, Reddit, Snap, Spotify Technology SA ในช่วงหลายปีก่อนที่จีนจะเริ่มปราบปรามโดยรัฐบาลจีน
ก่อนหน้านี้ในปี 2564 ความมั่งคั่งของหม่าลดลงราว 40% จากจุดสูงสุด หลังจากที่เขาต้องขายหุ้นจำนวนมาก ทำให้ทรัพย์สินส่วนตัวหายไปหลายพันล้านดอลลาร์
อ้างอิง bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์