เป็นบวกต่อพรรคเดโมแครต! ‘อัตราว่างงาน’ ในรัฐสวิงสเตตส่วนใหญ่ลดต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด
ศึกเลือกตั้งปธน.สหรัฐร้อนแรงขึ้น เมื่ออัตราว่างงานในหลายรัฐสวิงสเตตลดลงต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งส่งผลดีต่อการหาเสียงของพรรคเดโมแครต ขณะที่รัฐเนวาดายังคงมีอัตราว่างงานสูงสุด ทำให้การต่อสู้แฮร์ริสกับทรัมป์ยังคงสูสี
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐที่สำนักข่าว Bloomberg วิเคราะห์พบว่า “อัตราการว่างงาน” ในหลายรัฐสวิงสเตตที่คาดว่าจะส่งผลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งหน้า ได้ “ลดลงต่ำกว่า” ระดับก่อนช่วงเกิดโรคระบาดโควิด-19 แล้ว
จากข้อมูล 8 เดือนจนถึงเดือนสิงหาคม พบว่า อัตราการว่างงานใน 6 จาก 7 รัฐที่เป็นสนามรบการเลือกตั้ง ลดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงที่ประธานาธิบดีทรัมป์ดำรงตำแหน่ง โดยเฉพาะรัฐแอริโซนาและเพนซิลเวเนียที่มีอัตราการว่างงานลดลงมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์
ข้อมูลนี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับการหาเสียงของพรรคเดโมแครตที่นำโดยรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ซึ่งได้ชูผลงานของรัฐบาลไบเดนในเรื่อง “การสร้างงาน” เป็นจุดเด่น โดยในระดับประเทศ อัตราการว่างงานในเดือนกันยายนอยู่ที่ 4.1% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ตามรายงานของสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งไม่ได้รวมตัวเลขในระดับรัฐ
ส่วนการหาเสียงด้านเศรษฐกิจของทรัมป์นั้น มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและประเด็นผู้อพยพภายใต้การบริหารของไบเดน
ทั้งนี้ อัตราว่างงานในรัฐวิสคอนซินต่ำที่สุดเป็นอันดับ 10 ของสหรัฐที่ 2.9% ในเดือนสิงหาคม ส่วนอัตราว่างงานในรัฐแอริโซนา จอร์เจีย นอร์ทแคโรไลนา และเพนซิลเวเนีย ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของสหรัฐในเดือนสิงหาคม ขณะที่อัตราว่างงานในรัฐมิชิแกนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของประเทศ
ส่วนรัฐเนวาดา ยังคงเผชิญกับปัญหาการว่างงานสูงสุดในบรรดา 7 รัฐที่มีการแข่งขันทางการเมืองสูง โดยอัตราว่างงานเฉลี่ยในปีนี้อยู่ที่ 5.2% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนเกิดโควิด-19 ประมาณ 0.7% สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์การว่างงานในรัฐเนวาดายังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับรัฐอื่น ๆ
ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์เศรษฐกิจที่ซบเซาของรัฐเนวาดาอาจส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยการสำรวจของ RealClearPolitics พบว่า แฮร์ริสและทรัมป์มีคะแนนนิยมที่ใกล้เคียงกันมากที่ 48.6% ต่อ 47.5% ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดและผลลัพธ์ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง
จากการสำรวจของ Bloomberg News/Morning Consult เมื่อเดือนที่แล้วในรัฐสวิงสเตททั้งหมดพบว่า คามาลา แฮร์ริส มีคะแนนนำอยู่ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ในกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่คาดว่าจะไปใช้สิทธิ์
ในคำถามที่ว่าใครเป็นที่ไว้วางใจมากกว่าในเรื่องการว่างงาน ผลสำรวจพบว่าผู้สมัครทั้งสองคนมีคะแนนสูสีกัน โดย 46% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าไว้วางใจแฮร์ริสมากกว่า ขณะที่ 45% ไว้วางใจทรัมป์
อ้างอิง: bloomberg