ทรัมป์เรียกผู้พิพากษา ‘ชั่วร้าย’ แพร่แฟ้มคดีก่อนเลือกตั้ง
อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกผู้พิพากษาว่า เป็น“คนที่ชั่วร้ายที่สุด” หลังจากเธอเผยแพร่หลักฐานเอกสารฟ้องคดีมากกว่า 1,800 หน้าในคดีสมคบคิดล้มเลือกตั้ง ที่อัยการพิเศษแจ็ค สมิธ ได้ยื่นฟ้อง
สำนักข่าวบีบีซีรายงาน ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกันกล่าวว่า การที่ ทันยา ชัตแคน ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นสหรัฐ ปฏิเสธคำขอของเขาที่ขอให้ชะลอการเผยแพร่หลักฐานใหม่ ไปจนถึงหลังการลงคะแนนเสียงในเดือนหน้าถือเป็น “การแทรกแซงการเลือกตั้ง”
นักวิเคราะห์กฎหมายได้ถกเถียงกันว่าการยื่นฟ้องคดีนี้ละเมิดกฎภายในของกระทรวงยุติธรรมที่อัยการต้องหลีกเลี่ยงดำเนินขั้นตอนการสอบสวนใด ๆ ที่อาจส่งผลต่อการเลือกตั้ง ภายใน 60 วันก่อนการลงคะแนนเสียงหรือไม่
แต่ในคําตัดสินของเธอ ผู้พิพากษาชัตแคนแย้งว่าถ้าเธอเก็บไฟล์ไว้เป็นความลับ นั่นอาจเป็นการตีความว่าเป็นการแทรกแซงการเลือกตั้ง
“หากศาลระงับข้อมูลที่ประชาชนมีสิทธิ์เข้าถึงเพียงเพราะผลกระทบทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้นจากการเผยแพร่ การระงับนั้นอาจเป็น หรือดูเหมือนจะเป็น การแทรกแซงการเลือกตั้ง” เธอระบุในคำสั่ง
ปีที่แล้ว ผู้หญิงชาวเท็กซัสถูกตั้งข้อหาขู่ฆ่าผู้พิพากษา ชัตแคน โดยอ้างถึงคดีทรัมป์
ทั้งนี้ เอกสาร 1,889 หน้าที่มีการขีดปิดทับหลายจุดที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว รวมถึงบางส่วนของชีวประวัติของอดีตรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ และการประกาศอย่างเป็นทางการของเขาว่าเขาจะไม่ล้มล้างผลการเลือกตั้งในปี 2020
หลักฐานใหม่เป็นส่วนหนึ่งของคําร้องที่ยื่นโดยนายสมิธเมื่อเดือนที่แล้ว
เมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) ทรัมป์ให้สัมภาษณ์พอดคาสต์กับ แดน บองจิโน ซึ่งเป็นสื่อฝ่ายขวา ทรัมป์ประณามผู้พิพากษา ชัตแคน และเรียกที่อัยการพิเศษว่า “คนน่ารังเกียจ”
คําฟ้องมุ่งเน้นไปที่การจลาจลที่รัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 และกล่าวหาว่าทรัมป์สมรู้ร่วมคิดอย่างผิดกฎหมายเพื่อล้มล้างผลการเลือกตั้งปี 2020 ที่เขาพ่ายแพ้ต่อต่อโจ ไบเดน
ระหว่างการสัมภาษณ์ ทรัมป์ยังเปรียบการกักขังผู้ที่ถูกตั้งข้อหาโจมตีอาคารรัฐสภากับการกักขังชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
“ทําไมพวกเขาถึงยังถูกกักขังอยู่? ไม่มีใครเคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้มาก่อน” เขากล่าว “อาจจะเป็นชาวญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง พูดตรงๆ”
เมื่อต้นปีนี้ ศาลฎีกาตัดสินว่าทรัมป์ไม่สามารถถูกดําเนินคดีในการกระทําอย่างเป็นทางการในฐานะประธานาธิบดีได้
ด้วยเหตุนี้ นายสมิธจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนสำนวนฟ้องคดีครั้งประวัติศาสตร์นี้ใหม่ และได้โต้แย้งว่าทรัมป์ก่ออาชญากรรมในขณะที่ยังดํารงตําแหน่ง แต่กระทำในฐานะพลเมือง
เขายื่นคําร้องใหม่ในเดือนกันยายนเพื่อแสดงหลักฐานใหม่ในการเอาผิดอดีตประธานาธิบดี ซึ่งรวมถึงข้อกล่าวหาว่าทรัมป์สนับสนุนการกล่าวอ้างที่เป็นเท็จเกี่ยวกับการฉ้อโกงการเลือกตั้งแม้เขาจะเชื่อว่าเป็นเรื่อง “บ้า”
คำฟ้องที่แก้ไขใหม่ยังรวมถึงรายละเอียดใหม่ว่าความสัมพันธ์ของทรัมป์กับเพนซ์แย่ลงอย่างไร โดยอดีตรองประธานาธิบดีบอกทรัมป์ให้หยุดกล่าวอ้างซ้ำซากถึงทฤษฎีการฉ้อโกงการเลือกตั้งซึ่งเป็นเรื่องเท็จและเดินหน้าต่อไป
เอกสารที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์รวมถึงการถอดเสียงการสัมภาษณ์กับคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่สืบสวนการจลาจลที่ศาลากลางสหรัฐ ส่วนหนึ่งของอัตชีวประวัติของเพนซ์ และอีเมลระดมทุนที่ส่งถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ยังไม่ชัดเจนว่าคดีวันที่ 6 มกราคมจะมีการพิจารณาในศาลหรือไม่ ทรัมป์คาดว่าจะยุติการฟ้องร้องหากเขาชนะเลือกตั้งได้กลับเข้าทําเนียบขาว
ทรัมป์กําลังเผชิญกับคดีอาญาอื่น ๆ อีกหลายคดี เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา 34 ข้อหาที่นิวยอร์กในคดีที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินเพื่อปิดปาก