'สมรสเท่าเทียมไทย' ดันนักท่องเที่ยวพุ่งอีก 4 ล้านคน สร้างงาน 76,000 ตำแหน่ง
สื่อนอกมอง ไทยผ่าน ‘กฎหมายสมรสเท่าเทียม’ ชาติแรกของอาเซียน ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไทยเพิ่มอีก 4 ล้านคนต่อปี พร้อมสร้างรายได้เฉียด 70,000 ล้านบาทและเพิ่มงานกว่า 76,000 ตำแหน่ง
จากกรณีไทยเป็น “ชาติแรก” ในอาเซียนที่ผ่าน “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” ซึ่งรับรองการแต่งงานของเพศเดียวกัน สื่อต่างประเทศอย่างสำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า กฎหมายสมรสเพศเดียวกัน ที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2568 นี้ อาจดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาที่ไทย “เพิ่มอีก 4 ล้านคนต่อปี” ตามข้อมูลจากบริษัทจองห้องพัก Agoda
รายงานนี้ประมาณการว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทย อาจเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้ถึง 10% ทำให้ไทยได้รับรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 2,000 ล้านดอลลาร์หรือราว 69,000 ล้านบาทต่อปี ภายในระยะเวลาสองปี โดยคาดว่านักท่องเที่ยวที่มาไม่เพียงแค่คู่รักเพศเดียวกันและแขกในงานแต่งงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชุมชน LGBTQ+ และอื่น ๆ อีกด้วย
ตามรายงานจากบริษัทที่ปรึกษาทางด้านนโยบายสาธารณะ Access Partnership ระบุว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทย คาดว่าจะเพิ่มงานประจำ 76,000 อัตราให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ ขณะเดียวกันยังจะเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของไทยอีก 0.3%
รายงานของ Agoda ยังวิเคราะห์ปัจจัยอื่นๆ ที่มีอิทธิพลต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงความน่าดึงดูดของจุดหมายปลายทาง ความคุ้มค่าของการเดินทาง ความสะดวกในการเข้าประเทศ และระดับการยอมรับ LGBTQIA+ ที่รับรู้ได้
ด้านทิโมธี ฮิวจ์ รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจองค์กรที่ Agoda เน้นย้ำโอกาสทางเศรษฐกิจจากนักท่องเที่ยวอินเดีย โดยคาดการณ์ว่าไทยจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับ คู่รัก LGBTQIA+ อินเดีย และผู้ที่พร้อมจะเฉลิมฉลอง
ชุมาพร แตงเกลี้ยง นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBTQ คนไทยและผู้จัดงาน Bangkok Pride กล่าวว่า องค์กรของเธอกำลังจัดพิธีแต่งงานหมู่สำหรับคู่รักเพศเดียวกันในวันที่ 23 มกราคม 2568 ซึ่งเป็นวันแรกที่สามารถยื่นทะเบียนสมรสได้
“เรามีคู่รักลงทะเบียนมากกว่า 300 คู่ และเป้าหมายของเราคือการเข้าถึง 1,000 คู่ทั่วประเทศ เรามีคู่รักต่างชาติลงทะเบียนแล้ว” ชุมาพรกล่าว
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังเล็งที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงาน “WorldPride” ซึ่งเป็นงานเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศระดับโลก โดยช่วงที่นครซิดนีย์ของออสเตรเลียเป็นเจ้าภาพในปี 2023 สามารถทำรายได้ 185.6 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียหรือราว 4,000 ล้านบาท ตามรายงานของ Agoda
สำหรับ “การท่องเที่ยวสีรุ้ง” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Rainbow Tourism” มีมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก
“ในยุคแห่งการแข่งขันที่ดุเดือดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยใช้จ่ายเงินจำนวนมากในการจัดงานแต่งงานและงานเฉลิมฉลองที่เกี่ยวข้อง ประเทศไทยมีโอกาสทางยุทธศาสตร์ที่ไม่เหมือนใคร” มาร์คัส ผู้อำนวยการของ Access Partnership กล่าว
อ้างอิง: cnbc