‘หุ้นพึ่งตลาดจีน’ กอดคอโดดเหว ผวาสงครามการค้ารอบใหม่

เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียรายงานว่า “หุ้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับตลาดจีน” กำลังตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องมาจากความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่ยังไม่เห็นผล รวมถึงความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสงครามการค้าโลกครั้งใหม่

ตัวอย่างบริษัทที่พึ่งพาตลาดจีนสูง อาทิ หุ้นของรถ “Volkswagen” ของเยอรมนี ร่วงลง 27% ในปีนี้ ณ วันจันทร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงจากรถยนต์ไฟฟ้าในจีน โดยบริษัทได้ปรับลดประมาณการผลประกอบการทั้งปี 2024 สองครั้ง และกำลังพิจารณาปิดโรงงานในเยอรมนีเป็นครั้งแรก

ทั้งนี้ ราคาหุ้นกำลังเผชิญการปรับฐานครั้งใหญ่ บางส่วนเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรที่สูงขึ้น โดยว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้ขู่ว่า จะเพิ่มภาษีศุลกากรเพิ่มเติมสูงถึง 60% สำหรับสินค้าจีน เขาได้ประกาศว่าวุฒิสมาชิกมาร์โก รูบิโอ ซึ่งถูกรัฐบาลปักกิ่งคว่ำบาตรและห้ามเดินทางเข้าประเทศจีน เป็นตัวเลือกของเขาสำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ

ในขณะเดียวกัน สหภาพยุโรปได้กำหนดภาษีศุลกากรสูงสุด 45% สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ทำให้ปักกิ่งประกาศตอบโต้ด้วยการกำหนดภาษีศุลกากรต่อบรั่นดีของยุโรป จนทำให้ “Pernod Ricard” ผู้ผลิตไวน์และสุราของฝรั่งเศส เผชิญการลดลงของราคาหุ้น 15% นับตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน อีกทั้งยอดขายในจีนของบริษัทก็ลดลง 26% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่สาม 

ภาคเซมิคอนดักเตอร์เผชิญแรงกดดันเช่นกัน ผู้ผลิตชิปของจีนได้กว้านซื้ออุปกรณ์การผลิตจากต่างประเทศ เพื่อเตรียมรับมือข้อจำกัดที่เข้มงวดขึ้นของสหรัฐในการส่งออกเทคโนโลยีไปยังจีน ยอดขายอาจลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อความต้องการลดลง

เป็นที่คาดว่าบริษัทเซมิคอนดักเตอร์อย่าง “Tokyo Electron” จะมีรายได้น้อยกว่า 40% จากจีนในช่วงครึ่งปีตุลาคม-มีนาคม ลดลงจาก 45% ในช่วงเมษายน-กันยายน ราคาหุ้นของบริษัทลดลง 9% นับตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน เนื่องจากมีความกังวลว่ายอดขายอาจลดลงต่อไปเมื่อทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง

ไม่เพียงเท่านั้น บริษัท “ASML Holdings” ของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องผลิตชิปขั้นสูงเพียงรายเดียวของโลก มีราคาหุ้นลดลง 12%

หุ้น “Shiseido” ผู้ผลิตเครื่องสำอางของญี่ปุ่น ลดลง 19% นับตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน หลังจากบริษัทประกาศในวันก่อนว่ากำไรสุทธิของกลุ่มจะลดลง 72% ในปีนี้ เนื่องจากตลาดชะลอตัวในจีน

บริษัทอาณาจักรแฟชั่น “LVMH” ในช่วงสามเดือนถึงเดือนกันยายน มีรายได้ลดลงเป็นครั้งแรกเมื่อเทียบปีต่อปี นับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19

ฌอง-ฌัก กีโญนี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ LVMH กล่าวในระหว่างการประชุมทางโทรศัพท์ว่า “ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในจีนแผ่นดินใหญ่ในปัจจุบันกลับมาอยู่ในระดับต่ำสุดตลอดกาลเช่นเดียวกับช่วงโควิด”

อ้างอิง: nikkei