ยูเครนยิงขีปนาวุธพิสัยไกล Storm Shadow ของอังกฤษใส่รัสเซียครั้งแรก

สื่ออังกฤษรายงาน ได้อ้างบัญชีผู้สื่อข่าวสงครามของรัสเซียในเทเลแกรมโพสต์ภาพเมื่อวันพุธ โดยระบุว่า เมื่อวันพุธ (20 พ.ย.67) มีเสียงขีปนาวุธโจมตีในภูมิภาคเคิร์สก์ ซึ่งอยู่บริเวณชายแดนยูเครน สามารถได้ยินเสียงระเบิดขนาดใหญ่อย่างน้อย 14 ครั้ง ส่วนใหญ่มีเสียงหวีดแหลมที่ดูเหมือนขีปนาวุธที่กำลังพุ่งเข้ามานำหน้ามาก่อนเสียงระเบิด ภาพดังกล่าวซึ่งถ่ายในย่านที่พักอาศัยเผยให้เห็นควันดำลอยขึ้นมาในระยะไกล มีรายงานว่าผู้คนในเคิร์สก์ยังพบชิ้นส่วนจากขีปนาวุธในภูมิภาคนี้ด้วย

โฆษกของนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ กล่าวว่า สำนักนายกรัฐมนตรีจะไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานหรือประเด็นการปฏิบัติงาน ก่อนหน้านี้อังกฤษเคยกล่าวไว้ว่ายูเครนสามารถใช้ขีปนาวุธร่อนสตอร์ม ชาโดว์ ภายในดินแดนของยูเครนได้ ขณะที่รัฐบาลลอนดอนเคยกำลังกดดันให้วอชิงตันขออนุญาตให้ใช้ขีปนาวุธดังกล่าวเพื่อโจมตีเป้าหมายในรัสเซียเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว

เมื่อวันอังคาร (19 ก.ย.67) ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลที่ผลิตโดยสหรัฐ เพื่อโจมตีเป้าหมายในรัสเซีย รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธเหล่านี้ใน และรอบๆ ภูมิภาคเคิร์สก์เท่านั้น หลังจากนั้น ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ลดเกณฑ์การโจมตีด้วยนิวเคลียร์ลงเพื่อตอบสนองต่อการโจมตีด้วยอาวุธดั้งเดิมที่มีขอบเขตกว้างขึ้น วอชิงตันกล่าวภายหลังว่าไม่เห็นเหตุผลใดๆ ที่ต้องปรับท่าทีด้านนิวเคลียร์ ในขณะที่จีนเรียกร้องให้มีการยับยั้งชั่งใจ

•  •สหรัฐส่งทุ่นระเบิดสังหารบุคคลให้ยูเครน

สหรัฐเปลี่ยนแปลงนโยบายอีกครั้งเมื่อวันพุธ (20 พ.ย.67) ไบเดนอนุญาตให้ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในยูเครน วอชิงตันยังได้ประกาศแพ็กเกจความช่วยเหลือทางทหารมูลค่า 275 ล้านดอลลาร์สำหรับยูเครน ซึ่งรวมถึงกระสุนสำหรับระบบจรวดปืนใหญ่เคลื่อนที่สูง ไฮมาร์ส(HIMARS) เครื่องยิงขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ เจเวลิน(Javelin )รวมทั้งอาวุธขนาดเล็ก และกระสุนปืน การเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐเกิดขึ้นในขณะที่สงครามของรัสเซียในยูเครน ซึ่งดำเนินมายาวนานกว่า 1,000 วัน อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่มีความผันผวน เกือบหนึ่งในห้าของดินแดนยูเครนอยู่ในมือของรัสเซีย

 กองทหารเกาหลีเหนือกำลังประจำการในภูมิภาคเคิร์สก์ และมีความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับอนาคตของความช่วยเหลือจากชาติตะวันตก ในขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเตรียมกลับทำเนียบขาวในเดือนมกราคม

 อัสเสด เบก ผู้สื่อข่าวของอัลจาซีรา รายงานจากเคียฟ กล่าวว่า การตัดสินใจอนุญาตให้ใช้กับระเบิดสังหารบุคคลนั้นมีแนวโน้มสอดคล้องกับความพยายามของสหรัฐที่จะช่วยยูเครนชะลอการรุกคืบของรัสเซียในภาคตะวันออก เพื่อใช้ประโยชน์มากขึ้นในการเจรจาสันติภาพในอนาคต

“คณะบริหารของไบเดนกำลังจะหมดวาระ และว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังจะเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งเคยวิพากษ์วิจารณ์ความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐที่มีต่อยูเครน และยังกล่าวอีกว่าเขาจะยุติสงครามนี้ลงภายในไม่กี่วัน” เบก กล่าว “ดังนั้นสิ่งที่ฝ่ายบริหารของสหรัฐต้องการคือ การทำให้ยูเครนอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งมาก อย่างน้อยก็ชะลอการรุกคืบในแนวรบบางส่วนของรัสเซีย เพื่อที่เมื่อมีการเจรจา ยูเครนจะอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบมากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้” เขากล่าวเสริม

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์