ตลาดหุ้น ‘ญี่ปุ่น‘ จ่อถอน 94 บริษัทปีนี้ มากสุดในรอบ 11 ปี เจอแรงกดดันกำไรต้องโต

สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า ตลาดหุ้นโตเกียวคาดว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนโดนถอนออกจากตลาด 94 แห่งในปีนี้ ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดในรอบ 11 ปี นับตั้งแต่ปี 2556

ปัจจุบันพบว่ามีบริษัทจำนวนมากขึ้นถึง 33 แห่งที่ตัดสินใจถอนตัวออกจากตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ซึ่งอาจเป็นผลมาจากมาตรฐานที่เข้มงวดขึ้น ส่งผลให้จำนวนบริษัทจดทะเบียนโดยรวมลดลง

ตลาดหลักทรัพย์และนักลงทุนกำลังร่วมมือกันยกระดับคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน เพื่อดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวได้รวมกับตลาดหลักทรัพย์โอซาก้าในปี 2556

ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนใหม่เพียงประมาณ 80 แห่ง เนื่องจากตลาดเติบโตซบเซา จำนวนบริษัทจดทะเบียนสุทธิ ณ สิ้นปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ 3,842 แห่ง ลดลง 1 แห่งจากปีก่อน และก่อนหน้านี้ระหว่างปี 2556 ถึง 2566  ตัวเลขการจดทะเบียนรายปีเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 40 แห่ง ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าสูงเกินไป

เหตุผลหลักที่ทำให้บริษัทจำนวนมากตัดสินใจถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์คือ เพื่อเพิ่มอิสระในการบริหารงาน การเป็นบริษัทมหาชนนั้นมาพร้อมกับข้อกำหนดและกฎระเบียบที่เข้มงวด ซึ่งอาจจำกัดความคล่องตัวในการตัดสินใจลงทุนระยะยาวหรือปรับโครงสร้างองค์กรได้

นอกจากนี้ การถูกบริษัทอื่นเข้าซื้อกิจการก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้บริษัทต้องถอนหุ้นออกจากตลาด เช่นเดียวกับกรณีของ Taisho Pharmaceutical Holdings ที่ครอบครัวเจ้าของต้องการความยืดหยุ่นในการบริหารงานมากขึ้น จึงตัดสินใจนำบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์ 

ทั้งนี้คาดว่า การถอนหุ้นออกจากตลาดหุ้นจะยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต

บริษัทจดทะเบียนลดลงทั่วโลก

ยุโรปและสหรัฐอเมริกาก็มีบริษัทจดทะเบียนลดลงเช่นกัน โดยมีการประเมินจํานวนบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกามากกว่า 4,000 แห่ง ณ สิ้นเดือนกันยายน ซึ่งลดลงประมาณ 2,800 แห่ง หรือ 40% จากปลายปี 2543 ส่วนยุโรปอยู่ที่ประมาณ 8,000 คิดเป็นครึ่งหนึ่งของตัวเลขนิวไฮในปี 2554 

การจดทะเบียนมีความสำคัญน้อยลงสำหรับธุรกิจเนื่องจากต้นทุนในการจดทะเบียนเพิ่มขึ้นและการระดมทุนในตลาดเอกชนก็ง่ายขึ้น

“แม้ว่าจำนวนบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะลดลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าธุรกิจทั้งหมดจะเติบโตได้ง่ายขึ้น" 

คาซึโนริ ทาเตเบ จาก Goldman Sachs Research กล่าวว่า บริษัทที่ยังคงอยู่ในตลาดจะต้องเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในการเติบโตให้เร็วกว่าต้นทุนที่ต้องเสียไปในการจดทะเบียน โดยปัญหาสำคัญของญี่ปุ่นคือการขาดบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่