‘พายุไซโคลนชิโด’ ถล่ม ‘เกาะมายอต’ ฝรั่งเศส คาดประชาชนเสียชีวิตถึงพันคน

‘พายุไซโคลนชิโด’ ถล่ม ‘เกาะมายอต’ ฝรั่งเศส คาดประชาชนเสียชีวิตถึงพันคน

'พายุไซโคลนชิโด' ถล่ม ‘เกาะมายอต’ ฝรั่งเศส คาดว่าส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิตหลายร้อยราย หรืออาจหลายพันราย เนื่องจากเป็นพายุไซโคลนที่ทรงพลังที่สุดในรอบเกือบ 100 ปี

ฟรองซัวส์-ซาเวียร์ เบียววิลล์ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นฝรั่งเศสระดับอาวุโสของหมู่มายอต แถบมหาสมุทรอินเดีย เผยว่า “พายุไซโคลนชิโด” ถล่ม ‘เกาะมายอต’ อาจคร่าชีวิตประชาชนในหมู่เกาะหลายร้อยคน ซึ่งอาจถึงหลายพันคน เพราะเป็นพายุไซโคลนที่ทรงพลังที่สุดในรอบเกือบ 100 ปี

อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศสยังไม่สามารถระบุเหยื่อของพายุดังกล่าวได้ในขณะนี้

กรมอุตุนิยมวิทยาฝรั่งเศสรายงานว่า ไซโคลนชิโดถล่มหมู่เกาะมายอตของฝรั่งเศส ช่วงคืนวันอาทิตย์ (15 ธ.ค.) โดยมีแรงลมมากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือน อาคารต่าง ๆ ของรัฐบาล และโรงพยาบาล และเผยว่าพายุลูกนี้ถือเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่ถล่มเกาะในรอบมากกว่า 90 ปี

โมฮัมหมัด อิชมาเอล ประชาชนในเมืองมามูดซู ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาะ เผยว่า รู้สึกเหมือนตกอยู่ในช่วงหลังสงครามนิวเคลียร์ บ้านในละแวกหายไปหมด

ภาพถ่ายทางอากาศจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศส เผยให้เห็นซากปรักหักพังของบ้านเรือนชั่วคราวกระจัดกระจายเต็มเนินเขาของหมู่เกาะมายอต ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายจากประเทศคอโมโรสที่อยู่ใกล้เคียง

ขณะที่ภาพจากสื่อท้องถิ่นแสดงให้เห็น แม่คนหนึ่งกำลังเข็นเปลเด็กแรกเกิดไปตามทางเดินที่ถูกน้ำท่วมในมายอต ส่วนเรือตำรวจล่มและขึ้นมาเกยตื้นบนฝั่ง และต้นมะพร้าวหักโค่นทับหลังคาบ้านเรือนหลายหลัง

ข้อมูลกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสระบุว่า ในมายอตมีประชากรที่ไม่มีเอกสารมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากมีผู้คนหลายพันคนพยายามอพยพจากคอโมโรส นอกชายฝั่งแอฟริกาตะวันออกเข้าไปอยู่ในมายอต เพราะมีมาตรฐานการครองชีพที่สูงกว่า

ทั้งนี้ มายอตที่อยู่ห่างจากกรุงปารีสเกือบ 8,000 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่ยากจนกว่าพื้นที่อื่น ๆ ในฝรั่งเศส และประสบปัญหาด้านความรุนแรงจากกลุ่มอาชญากรและกลุ่มสร้างความไม่สงบในสังคมมานานหลายสิบปี และประชากรมากกว่า 3 ใน 4 ในมายอตอยู่ในกลุ่มต่ำกว่าเส้นแบ่งแยกความจน (poverty line) ของฝรั่งเศส และความตึงเครียดในพื้นที่ก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อต้นปี เนื่องจากขาดแคลนน้ำ

พายุไซโคลนลูกนี้ยังเข้าถล่มทางตอนเหนือของประเทศโมแซมบิกเมื่อวันอาทิตย์ด้วย แต่ยังไม่ทราบความเสียหายทั้งหมดแน่ชัด ส่วนในคอโมโรส มีประชาชนบาดเจ็บเล็กน้อย ต้องพลัดถิ่น 24 คน และบ้านเรือนเสียหาย 21 หลัง

 

อ้างอิง: Reuters