‘TikTok’ ร้องศาลสูงสหรัฐ ขอให้ระงับแบน ขณะทรัมป์ส่งสัญญาณบวกต่อ TikTok

‘TikTok’ ร้องศาลสูงสหรัฐ ขอให้ระงับแบน ขณะทรัมป์ส่งสัญญาณบวกต่อ TikTok

ศึกแบน TikTok ยังไม่จบ! ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงสุดสหรัฐ เพื่อขอระงับคำสั่งแบนที่กำลังจะมาถึง ขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ส่งสัญญาณเปิดทางให้ TikTok กลับมาทำธุรกิจในสหรัฐอีกครั้ง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หลังจาก “ติ๊กต๊อก” (TikTok) แพ้คดีคำสั่งแบนในศาลอุทธรณ์ บริษัทแม่ของ Tiktok ที่ชื่อว่า ByteDance ได้ยื่นคำร้องต่อ “ศาลสูงสุดของสหรัฐ” เพื่อขอให้ระงับคำสั่งแบนจากรัฐบาลที่จะมีผลในวันที่ 19 มกราคม 2025 โดยอ้าง “ความคิดเห็นในเชิงบวก” เกี่ยวกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมนี้จากว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะขึ้นสาบานตนเป็นผู้นำในวันที่ 20 มกราคม 2025

เพื่อรักษา TikTok ในตลาดสหรัฐที่มีผู้ใช้งานกว่า 170 ล้านคน ByteDance ได้ยื่นคำร้องต่อศาลให้ระงับกฎหมายดังกล่าวภายในวันที่ 6 มกราคม ซึ่งหากศาลสูงสุดไม่เข้ามาแทรกแซง คำสั่งแบนจะมีผลในวันที่ 19 มกราคม

อย่างไรก็ตาม ท่าทีของทรัมป์อาจมีผลต่อ “การบังคับใช้คำสั่งแบน” ในทางปฏิบัติ เนื่องจากกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย และอยู่ภายใต้ประธานาธิบดีสหรัฐ ทรัมป์จึงมีอำนาจในการอนุมัติข้อเสนอการขายกิจการใด ๆ

“มีความเป็นไปได้ที่สมเหตุสมผลที่รัฐบาลชุดใหม่จะระงับการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว หรือพยายามลดผลกระทบที่รุนแรงที่สุดซึ่งอาจเกิดขึ้น” TikTok กล่าวในคำแถลง

บริษัท ByteDance กล่าวต่อว่า “นี่ไม่เป็นประโยชน์ต่อใครเลย ไม่ว่าจะเป็นคู่กรณี ประชาชน หรือศาล ที่คำสั่งแบน TikTok จะมีผลบังคับใช้เพียงเพื่อให้รัฐบาลชุดใหม่ระงับการบังคับใช้ในอีกไม่กี่ชั่วโมง วัน หรือแม้แต่สัปดาห์ถัดมา” 

ด้านทรัมป์กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เขาจะพิจารณายกเลิกแนวทางที่เข้มงวดที่เขาใช้ต่อแอปพลิเคชันนี้เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2020

“เราจะพิจารณา TikTok นะครับ คุณรู้ไหมว่าผมมีความรู้สึกดีต่อ TikTok” ทรัมป์กล่าวในการแถลง

ในการต่อสู้คดีทางศาล TikTok ยกข้อต่อสู้ว่า สภาคองเกรสได้ละเมิด First Amendment หรือบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 ที่สภาฯ จะต้องไม่ผ่านกฎหมายใดๆ ที่จะลดทอนเสรีภาพในแสดงความคิดเห็น ซึ่งการแบน TikTok ก็เหมือนการตัดช่องทางการสื่อสารของประชาชน 

แต่อย่างไรก็ดี ศาลอุทธรณ์สหรัฐได้พิพากษายืนตามคำสั่งแบนของคองเกรส โดยวินิจฉัยว่า เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

“First Amendment  มีอยู่เพื่อปกป้องเสรีภาพในการพูดในสหรัฐ” ผู้พิพากษาดักลาส กินส์เบิร์กเขียนในคำตัดสินของคณะผู้พิจารณาคดี “แต่ในกรณีนี้ รัฐบาลดำเนินการเพื่อปกป้องเสรีภาพนั้นจากประเทศคู่ปรปักษ์ต่างชาติ และจำกัดความสามารถของคู่ปรปักษ์นั้นในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้คนในสหรัฐ”

TikTok กล่าวต่อศาลสูงสุดว่า “กฎหมายแบนดังกล่าวจะปิดแพลตฟอร์มการแสดงความคิดเห็นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในอเมริกาในวันก่อนวันสาบานตนของประธานาธิบดี”

ส่วนเหล่าสมาชิกสภานิติบัญญัติชี้ว่า การออกกฎหมายนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้จีนใช้แอปพลิเคชันนี้เพื่อเอาข้อมูลพลเมืองสหรัฐ หรือแพร่กระจายโฆษณาชวนเชื่อของจีน อย่างไรก็ตามรัฐบาลสหรัฐไม่ได้นำหลักฐานมาแสดงว่า จีนใช้แอปฯนี้ เพื่อมีอิทธิพลต่อพลเมืองสหรัฐหรือขโมยข้อมูลอย่างไร

ที่ผ่านมา ความนิยมของ TikTok พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในฐานะแหล่งบันเทิงและข้อมูล รวมถึงเป็นแพลตฟอร์มในการสร้างธุรกิจ การสำรวจของบริษัทวิจัย Pew Research ที่เผยแพร่ในเดือนกันยายนแสดงให้เห็นว่า ประมาณ 17% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐรับข่าวสารจากแอปฯนี้เป็นประจำ ซึ่งเพิ่มขึ้นห้าเท่าจากปี 2020

อ้างอิง: bloomberg