ปิดตำนาน 'Hindenburg Research' นักล่าทุจริตผู้สั่นสะเทือนมหาเศรษฐีโลก

ปิดตำนาน 'Hindenburg Research' นักล่าทุจริตผู้สั่นสะเทือนมหาเศรษฐีโลก

“เนท แอนเดอร์สัน” ประกาศปิด Hindenburg Research บริษัทที่สร้างชื่อจากการเปิดโปงทุจริตบริษัทยักษ์ใหญ่ หลังสร้างผลงานเขย่าวงการการเงินโลก ทำมูลค่าตลาดของบริษัทที่ถูกแฉร่วงกว่า 1.7 แสนล้านดอลลาร์ ย้ำไม่มีปัญหาคุกคามหรือสุขภาพ แต่ต้องการเวลาให้ชีวิตด้านอื่น

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (16 ม.ค.) ว่า เนท แอนเดอร์สัน นักลงทุนที่มีชื่อเสียงจากการขายหุ้นชอร์ต (short selling) และเคยมีผลงานโดดเด่นในการเปิดโปงบริษัทของมหาเศรษฐีหลายราย เช่น โกตัม อดานี, แจ็ค ดอร์ซี และคาร์ล ไอคาห์น ได้ประกาศยุติการดำเนินงานของบริษัท Hindenburg Research

แอนเดอร์สันเขียนจดหมายลงในเว็บไซต์บริษัทว่า การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้มีสาเหตุจากการถูกคุกคาม ปัญหาสุขภาพ หรือปัญหาส่วนตัวใดๆ แต่เป็นเพราะการทำงานที่เข้มข้นและต้องใช้สมาธิสูงทำให้เขาพลาดโอกาสในการใช้ชีวิตด้านอื่นๆ และการอยู่กับคนที่เขารัก เขามองว่า Hindenburg เป็นเพียงบทหนึ่งในชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่จะมากำหนดตัวตนของเขา

บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนขายหุ้นชอร์ตที่มีชื่อเสียงหลายรายได้ถอนตัวจากวงการ เนื่องจากกังวลเรื่องการถูกฟ้องร้อง การถูกบีบให้ต้องซื้อหุ้นคืน (short squeeze) และการถูกตรวจสอบจากภาครัฐ แต่แอนเดอร์สันยังคงยืนหยัดและมีชื่อเสียงในฐานะนักวิเคราะห์ที่กล้าหาญที่สุด โดยไม่เกรงกลัวแม้จะต้องเผชิญหน้ากับผู้มีอิทธิพลทางการเมือง
 

แอนเดอร์สัน วัย 40 ปี สร้างความสั่นสะเทือนระดับโลกในเดือนม.ค. 2023 ในช่วงที่เขาเผยแพร่รายงานกล่าวหาว่าอดานีกำลัง "หลอกลวงนักลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์" ในขณะนั้น มหาเศรษฐีชาวอินเดียรายนี้จัดอยู่ในอันดับที่ 4 ของคนที่รวยที่สุดในโลกตาม ดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์ก

หลังจากนั้นไม่นาน แอนเดอร์สันยังได้เผยแพร่รายงานตรวจสอบการทุจริตเกี่ยวกับ Block Inc. ของแจ็ค ดอร์ซี และ Icahn Enterprises ของคาร์ล ไอคาห์นอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่านักธุรกิจทั้งสามรายและบริษัทของพวกเขาจะปฏิเสธข้อกล่าวหาของ Hindenburg อย่างแข็งขัน แต่ในปีนั้น ความมั่งคั่งรวมของพวกเขาลดลงถึง 9.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่บริษัทจดทะเบียนของพวกเขาสูญเสียมูลค่าตลาดไปถึง 1.73 แสนล้านดอลลาร์

เดือนนี้ แอนเดอร์สันได้เปิดโปง Carvana Co. ของเออร์นี การ์เซีย โดยกล่าวหาเขาและบิดา ว่ากระทำการทุจริตทางบัญชีครั้งใหญ่ บริษัทค้าปลีกรถยนต์รายนี้รีบปฏิเสธข้อกล่าวหาของ Hindenburg ว่า "จงใจบิดเบือนและไม่ถูกต้อง" จากนั้นราคาหุ้นฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและเพิ่มขึ้นกว่า 5% ในเดือนนี้

บลูมเบิร์ก เปิดเผยว่า ก่อนที่จะเริ่มมาเอาดีด้านการขายหุ้นชอร์ต แอนเดอร์สันเคยทำงานที่วอลล์สตรีทในตำแหน่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก จากนั้นพยายามหาเลี้ยงชีพด้วยการส่งข้อมูลให้โครงการแจ้งเบาะแสของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) โดยหวังจะได้รับรางวัล แต่เขาก็ยังคงมีปัญหาด้านการเงิน

แอนเดอร์สันจึงทุ่มเทพลังงานไปกับการเผยแพร่รายงานออนไลน์ ต้นปี 2020 ผลกระทบและชื่อเสียงของ Hindenburg เติบโตขึ้น ในช่วงหนึ่ง เขาสร้างทีมงาน 11 คน แม้จะเคยไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง แต่เขากล่าวว่าตัวเองและทีมพิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างผลกระทบใหญ่ได้
 

"มีผู้บริหารเกือบ 100 คนถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาโดยหน่วยงานกำกับดูแล ส่วนหนึ่งมาจากผลงานของเรา รวมถึงเศรษฐีและผู้มีอิทธิพล" เขาเขียน พร้อมอธิบายเสริมว่า "ทีมวิจัยของเราสร้างผลกระทบสั่นสะเทือนหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้น” 

แอนเดอร์สันกล่าวว่า เขากำลังจะปิดบริษัทตั้งแต่วันพุธที่ 15 ม.ค. หลังจากทำงานกับโปรเจคสุดท้ายเสร็จสิ้นและส่งต่อข้อมูลเกี่ยวกับแผนการหลอกลวงแบบพอนซีให้กับหน่วยงานกำกับดูแล

ในช่วงหกเดือนข้างหน้า เขาวางแผนที่จะทำวิดีโอและเอกสารเกี่ยวกับโมเดลของ Hindenburg เพื่อให้คนอื่นๆ ได้เรียนรู้วิธีการสืบสวนของบริษัท

"ตอนนี้ ผมจะโฟกัสการดูแลให้ทุกคนในทีมได้ไปทำงานในที่ที่พวกเขาต้องการ" แอนเดอร์สันกล่าว
 

อ้างอิง: Bloomberg