กังวลเบร็กซิท-พีเอ็มไอร่วงฉุด“ยูโร”-“เงินปอนด์”อ่อนค่า
เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน เป็นกลุ่มประเทศที่มีภาคการผลิตที่อ่อนแอในเดือนธ.ค. ขณะที่เนเธอร์แลนด์มีภาคการผลิตที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 3 เดือน
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ภาคการผลิตประจำเดือนธ.ค.ของยูโรโซนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท)
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1344 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1459 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2609 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2738 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6997 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7048 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.19 เยน จากระดับ 109.67 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3585 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3635 ดอลลาร์แคนาดา แต่หากเทียบกับฟรังก์สวิส ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.9903 ฟรังก์ จากระดับ 0.9824 ฟรังก์
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังจากไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีพีเอ็มไอ ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 5 สู่ระดับ 51.4 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2559 และต่ำกว่าระดับ 51.8 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนีพีเอ็มไอ ยังคงถูกกดดันจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่ แม้ว่าการจ้างงานยังคงทรงตัว ขณะที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี
ส่วนสกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เบร็กซิท โดยนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศกำหนดการสำหรับการลงมติในรัฐสภาต่อร่างข้อตกลงเบร็กซิท วันที่ 14 ม.ค.นี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นางเมย์ ตัดสินใจเลื่อนการลงมติในรัฐสภาต่อร่างข้อตกลงเบร็กซิทอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมที่มีกำหนดลงมติในวันที่ 11 ธ.ค.ในปีที่แล้ว เนื่องจากวิตกว่าจะไม่ได้รับการอนุมัติจากสภา หากมีการลงมติในวันดังกล่าว