รัฐบาลอังกฤษสะเทือนข่าวรั่วหัวเว่ย

ตามที่หนังสือพิมพ์รายวันเดอะ เทเลกราฟของอังกฤษรายงานเมื่อคืนวันอังคาร (23 เม.ย.) ว่า ในการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติวันนั้น นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ในฐานะประธานสภาความมั่นคง เห็นชอบให้หัวเว่ย บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จากจีน เข้ามาวางโครงข่ายโทรคมนาคม 5จี ที่ไม่ใช่โครงสร้างหลักให้กับอังกฤษ โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจากรัฐมนตรีร่วมคณะ ที่บางคนมีแนวโน้มก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมแทนนางเมย์ด้วย

การประชุมดังกล่าวผู้ที่เข้าร่วมมีเพียงรัฐมนตรีอาวุโสและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ที่ต้องลงนามตามกฎหมายความลับของทางราชการ ให้คำมั่นว่าต้องไม่เปิดเผยข้อมูลการหารือไม่เช่นนั้นแล้วจะถูกดำเนินคดี

สื่ออังกฤษรายงานด้วยว่า นายมาร์ก เซดวิลล์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ข้าราชการพลเรือนลำดับสูงสุด ยื่นคำขาดให้เวลาเหล่าผู้ร่วมประชุมปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลรั่วไหลได้ถึงบ่ายวันพฤหัสบดี (25 เม.ย.) ปรากฏว่า นายเจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายเกวิน วิลเลียมสัน รัฐมนตรีกลาโหมรีบปฏิเสธเป็นรายแรก

นายฮันท์ระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นน่าตกใจมาก ขณะที่นายวิลเลียมสันกล่าวว่า ไม่อาจยอมรับได้เลย  ต่อมานายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีมหาดไทยปฏิเสธด้วย ตามด้วยรัฐมนตรีอื่นอีกอย่างน้อย 1 คน

ส่วนข้อเท็จจริงนั้นโฆษกนายกฯ เมย์ เผยเมื่อวันพุธ (24 เม.ย.) ว่า การตัดสินใจอย่างเป็นทางการเรื่องหัวเว่ยจะมีขึ้นในเดือน มิ.ย.

ล่าสุดวานนี้ (26 เม.ย.) สำนักข่าวสกายนิวส์รายงานว่า รัฐบาลกำลังสอบสวนหาตัวคนปล่อยข่าว และอาจถึงขนาดเปิดสอบสวนคดีอาญา

หลายเดือนมานี้   รัฐบาลของนางเมย์เจอปัญหาความไม่ลงรอยกันมาก ตั้งแต่เรื่องการถอนตัวจากสหภาพยุโรป ทำให้รัฐมนตรีหลายคนต้องลาออก ขณะที่นางเมย์เองรับปากว่าจะลาออกทันทีที่สภาเห็นชอบข้อตกลงเบร็กซิทที่เธอทำไว้กับอียู ซึ่งตอนนี้ขยายเส้นตายไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค.แล้ว คำประกาศลาออกของเธอกระตุ้นให้รัฐมนตรีหลายคนแข่งกันเป็นผู้นำพรรค