กต. เดินหน้าแจง 'สหรัฐ' เหตุ ส.ว.มะกันออกร่างข้อมติต่อไทย

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงรายงานเกี่ยวกับร่างข้อมติของกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศของวุฒิสภาสหรัฐว่า กระทรวงการต่างประเทศรวมทั้งสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ได้ดำเนินการทุกวิถีทางในการเข้าพบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐ ทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติเพื่อสื่อสารท่าทีของรัฐบาลไทยต่อร่างข้อมติของคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าว โดยขณะนี้ข้อมติที่เกี่ยวกับไทยยังเป็นเพียงร่างที่อยู่ในการพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐ และวันที่ 18 ธันวาคมนี้ จะเป็นวันประชุมวันสุดท้ายในปีนี้ของรัฐสภาสหรัฐ

นายธานีกล่าวว่า ในหลักการร่างข้อมติดังกล่าวสนับสนุนหลักการประชาธิปไตยซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยให้การสนับสนุนอยู่แล้ว อย่างไรก็ดีการชุมนุมที่เกิดขึ้นในไทย รัฐบาลได้ใช้ความอดทนอดกลั้นในการบริหารจัดการมาโดยตลอด เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เคยพกพาอาวุธ มีเพียงหมวก โล่ และกระบอง บางครั้งตำรวจก็ถูกผู้ชุมนุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บ 

“การฉีดน้ำที่เกิดขึ้น 2-3 ครั้งก็เพราะเลี่ยงไม่ได้ อย่างเมื่อครั้งที่ผู้ชุมนุมพยายามจะบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา แต่ตำรวจก็มีการดำเนินการตามขั้นตอนและมีการเตือนก่อนฉีดน้ำหลายครั้ง ซึ่งเป็นไปตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และทำตามหลักสากลอย่างเต็มที่” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุ

นายธานียืนยันว่ารัฐบาลเคารพการแสดงออกและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนมาตลอด ผู้ประท้วงชุมนุมได้โดยที่รัฐบาลไม่ขัดขวาง ทั้งที่ไม่ได้มีการแจ้งขออนุญาตล่วงหน้า บางครั้งมีการใช้คำพูดรุนแรง ก้าวล่วงหลายส่วนในสังคมรวมถึงสถาบัน และมีการปิดการจราจร ส่วนข้อเรียกร้องต่างๆ ของผู้ชุมนุมไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปในหลายส่วน รวมถึงการปฏิรูปการศึกษา และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการผ่านกลไกต่างๆ ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นรัฐสภา หรือการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ สำหรับการจับกุมที่เกิดขึ้นก็เป็นเพราะมีการละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ดีขณะนี้มีการขยายข้อเรียกร้องไปไกลพอสมควร โดยพูดถึงการเป็นสังคมนิยมและการปฏิวัติฝรั่งเศส

นายธานี กล่าวย้ำว่า รัฐบาลในปัจจุบันมาจากการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ รัฐบาลต้องรับฟังเสียงคนในประเทศอย่างเท่าเทียมกัน และเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับผู้ประท้วงที่เป็นคนกลุ่มเล็กในประเทศ ไทยและสหรัฐเป็นพันธมิตรกันมานาน เรามีพื้นฐานค่านิยมร่วมกัน จึงเห็นว่าข้อมติดังกล่าวไม่น่าจะสะท้อนเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนในไทยที่อยากเห็นความสงบสุข สันติภาพ และความสามัคคีของสังคมกลับคืนมา เราอยากให้มิตรประเทศใช้วิจารณญาณในการหาทางออกโดยสันติและสร้างสรรค์ เพราะรัฐบาลมีกลไกในการแก้ปัญหา และพร้อมหารือกับผู้ชุมนุม จึงอยากให้เพื่อนของเราเข้าใจเข้าใจเรา

นายธานีกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังคงเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นเดียวกับทุกประเทศทั่วโลก แม้เราจะควบคุมสถานการณ์ได้ดีแต่ก็ยังต้องระมัดระวังอย่างสูง ประเด็นเร่งด่วนของรัฐบาลคือการดูแลเรื่องเศรษฐกิจ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อเนื่องและส่งผลกระทบกับประชาชนอีก เราจึงต้องช่วยกันรักษาเสถียรภาพ ความมั่นคง และควบคุมการแพร่ระบาดซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสูงสุด ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศได้ทำทุกวิถีทางและทุกช่องทางที่จะสื่อสารให้ประชาคมระหว่างประเทศ และมิตรประเทศของเรารวมถึงสหรัฐเข้าใจข้อเท็จจริงของการชุมนุมที่เกิดขึ้นในไทยอยู่ตลอด