'อินโดนีเซีย'สั่งผลิต‘ออกซิเจน’เพิ่มรองรับผู้ป่วยโควิด

อินโดนีเซียที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของโลก และโควิดระบาดหนักที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย เมื่อวันเสาร์ (3 ก.ค.) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 27,913 คน สูงสุดในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา

โรงพยาบาลซาร์ดจิโตบนเกาะชวา แถลงว่า ผู้ป่วยเสียชีวิต 60 คน เนื่องจากออกซิเจนใกล้หมดเต็มทีช่วงวันเสาร์ถึงเช้าตรู่วันนี้ (4 ก.ค.) ก่อนที่ออกซิเจนชุดใหม่จะมาถึง อย่างไรก็ตาม โฆษกโรงพยาบาลไม่สามารถยืนยันได้ว่าทุกรายเสียชีวิตเพราะโควิด 

เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว นางสิตี นาเดีย ทาร์มิซี เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเผยว่า รัฐบาลขอให้อุตสาหกรรมก๊าซ เพิ่มการผลิตออกซิเจนทางการแพทย์ และหวังว่าประชาชนจะไม่กักตุนจนหลายคนหาซื้อไม่ได้

โรงพยาบาลกล่าวด้วยว่า พยายามหาออกซิเจนเพิ่มมาตั้งแต่หลายวันก่อนเกิดเหตุ แต่คนไข้โควิดก็หลั่งไหลเข้ามาตั้งแต่วันศุกร์ (2 ก.ค.) จนออกซิเจนหมดเร็วเกินคาด วิกฤตินี้คลี่คลายลงเมื่อได้ออกซิเจนมาเพิ่มในช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา

ด้านกระทรวงผู้ดูแลการผลิตสั่งให้ผู้ผลิตก๊าซให้ความสำคัญกับออกซิเจนทางการแพทย์เป็นอันดับแรก ตอบสนองความต้องการวันละ 800 ตัน จากที่ผลิตได้ 225,000 ตันต่อปี

ขณะนี้โรงพยาบาลทั่วเกาะชวาเสี่ยงล่มสลายเต็มที จากการระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตาที่ติดเชื้อได้ง่าย เป็นเหตุให้จำนวนผู้ติดเชื้อในอินโดนีเซียพุ่งสูงจนทรัพยากรทางการแพทย์ไม่พอ

ในกรุงจาการ์ตา รัฐบาลแถลงว่า การฝังศพตามระเบียบโควิดเพิ่มขึ้น 10 เท่าตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. วานนี้ (2 ก.ค.) ฝัง 392 ศพ

ตั้งแต่วันอังคาร (6 ก.ค.) อินโดนีเซียจะจำกัดจำนวนคนต่างชาติเข้าประเทศ อนุญาตให้เฉพาะคนที่ฉีดวัคซีนครบแล้วและมีผลตรวจพีซีอาร์เป็นลบ ยกเว้นการเดินทางทางการทูต เข้ามาแล้วต้องกักตัว 8 วัน