'มีลูกไม่เกินสอง' นโยบายคุมประชากรอินเดีย
ขณะที่หลายประเทศพยายามแก้ปัญหาอัตราการเกิดใหม่ของประชากรต่ำ อินเดีย กลับดำเนินนโยบายสวนทางกับอีกหลายประเทศเพราะปัญหาของอินเดียคือมีประชากรมากเกินไป ทำให้ต้องออกนโยบายเชินชวนให้ชาวอินเดียมีลูกให้น้อยเข้าไว้และหนึ่งครอบครัวไม่ควรมีลูกเกินสองคน
จากข้อมูลเชิงสถิติที่บ่งชี้ว่าอินเดียจะเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกภายในปลายทศวรรษนี้ ทำให้รัฐใหญ่ๆบางรัฐของอินเดียพยายามหาวิธีการสกัดกั้นการเติบโตของจำนวนประชากร ผ่านมาตรการจูงใจต่างๆเพื่อเป็นรางวัลแก่คู่สามี-ภรรยาที่มีลูกไม่เกินสองคน
ข้อเสนอจากนโยบายนี้ที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในสังคมอินเดีย ที่รวมถึงการลงโทษครอบครัวที่มีลูกเยอะ ถูกผลักดันจากกระแสความวิตกกังวลว่าการปล่อยให้มีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นโดยไม่ควบคุมจะส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน รวมทั้งส่งผลกระทบต่อปริมาณอาหารในประเทศ ส่งผลกระทบต่อการใช้ไฟฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ
รัฐอุตตรประเทศ รัฐทางตอนเหนือที่มีฐานะยากจนซึ่งมีประชากรกว่า 200 ล้านคน ได้เผยแพร่ร่างกฏหมายที่มีเป้าหมายสร้าวเสถียรภาพแก่จำนวนประชากรในรัฐ พร้อมทั้งสนับสนุนนโยบาย“มีลูกสองคน” โดยครอบครัวในรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของอินเดียที่มีลูกสองคนจะได้รางวัลจากรัฐบาลในหลายรูปแบบ ตั้งแต่ได้รับการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ไปจนถึงรัฐช่วยแบ่งเบาค่าน้ำ-ค่าไฟ ส่วนครอบครัวที่มีลูกคนเดียวจะได้รับเงินสนับสนุนด้านการศึกษาจากรัฐ เงินช่วยเหลือด้านการดูแลสุขภาพและการจ้างงาน
สวนทางกับครอบครัวที่มีลูกสามคนหรือมากกว่านั้นจะไม่มีสิทธิ์ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล รวมทั้งได้รับผลประโยชน์ต่างๆที่เป็นสวัสดิการสังคม ทั้งยังสูญเสียสิทธิ์ทางการเมืองในรัฐนั้นๆด้วย
อุตตรประเทศเป็นหนึ่งในแหล่งส่งออกแรงงานอพยพขนาดใหญ่ที่สุดไปยังรัฐอื่นๆ ซึ่งร่างกฏหมายนี้เปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่และที่ประชุมสภาแห่งรัฐต้องอภิปรายเกี่ยวกับข้อเสนอต่างๆเหล่านี้
ส่วนรัฐอื่นๆที่มีประชากรมาก อาทิ รัฐกรณาฏกะและรัฐคุชราตกำลังพิจารณาใช้มาตรการกำหนดให้แต่ละครอบครัวมีลูกไม่เกินสองคน ขณะที่รัฐอัสสัมกำลังพิจารณาใช้กฏกับครอบครัวที่มีลูกสามคนหรือมากกว่านั้นด้วยการห้ามให้พ่อแม่เข้ารับราชการ
การที่หลายรัฐของอินเดียผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจังเพราะกลัวว่าเศรษฐกิจของประเทศจะอ่อนแอจากปัญหาการเติบโตอย่างรวดเร็วของจำนวนประชากรในประเทศ
“การที่ประชากรขยายตัวอย่างรวดเร็วสร้างความท้าทายใหม่ๆสำหรับเราและชาวอินเดียในอนาคตหลากหลายรูปแบบ และการมีประชากรจำนวนมากทำให้การเข้าถึงสวัสดิการของรัฐและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆของภาครัฐเป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมชาวอินเดียที่ยากจนจึงไม่มีห้องน้ำใช ไม่มีไฟฟ้าในบ้าน ไม่มีบ้านที่จะอยู่ ไม่มีน้ำใช้ และไม่มีแม้แต่บัญชีเงินฝากของธนาคาร”นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย กล่าวสุนทรพจน์ในวันชาติเมื่อปี 2562
ด้านธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ คาดการณ์ว่าประชากรวัยทำงานของอินเดียที่มีอายุ 15 ปีและ15ปีขึ้นไปจะเพิ่มขึ้นประมาณ 1.3 ล้านคนในทุกๆเดือนไปจนถึงปี 2568 และเพื่อให้ตลาดแรงงานมีเสถียรภาพ อินเดียจำเป็นต้องสร้างงานปีละประมาณ 8 ล้านตำแหน่งงาน แต่การระบาดของโรคโควิด-19 สร้างปัญหาให้กับความพยายามในเรื่องนี้อย่างมาก
ธนาคารกลางของอินเดีย หั่นคาดการณ์การเติบโตของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ในเดือนมิ.ย.เหลือเติบโตที่ 9.5% สำหรับปีงบประมาณไปจนถึงเดือนมี.ค.ปี 2565 จาก 10.5%
ขณะที่อัตราการเจริญพันธุ์ของอินเดียโดยรวมอยู่ที่อัตรา 2.2 ในปี 2563 ลดลงมากจากอัตรา 6 ในปี 2503 ซึ่งตัวเลขนี้สะท้อนถึงอัตราการเจริญพันธุ์ทั่วโลกที่ลดลงจาก 5.05 ในปี 2507 มาอยู่ที่ 2.4 ในปี 2562แต่การลดลงของจำนวนประชากรของอินเดียเป็นการลดลงเพียงเล็กน้อย ไม่สามารถบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับจำนวนประชากรได้
“อามิท ซิงห์” คนงานในโรงงานแห่งหนึ่งอายุ 27 ปีและเป็นพ่อของลูกวัย 8 เดือนในรัฐอุตตรประเทศ มองว่าการจำกัดจำนวนประชากรเป็นเรื่องที่ดีเพราะสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องมีลูกมากถึง4หรือ5คนแล้ว เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ ทำให้ไม่มีใครสามารถเลี้ยงดูครอบครัวขนาดใหญ่ได้
สหประชาชาติ (ยูเอ็น)ประเมินว่า อินเดียมีประชากรประมาณ 1,380 ล้านคน โดยเพิ่มขึ้น 145 ล้านคนในช่วง10ปีที่ผ่านมา ถือว่าแตกต่างกันมากกับประชากรทั้งประเทศของญี่ปุ่น และอินเดียมีแนวโน้มที่จะมีประชากรมากกว่า 1,500 ล้านคน ภายในปี 2573 เท่ากับแซงหน้าจีนในฐานะเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกไปโดยปริยาย