ธุรกิจสหรัฐวอนคองเกรสคิดรอบคอบก่อนคว่ำบาตรรัสเซีย

ธุรกิจสหรัฐวอนคองเกรสคิดรอบคอบก่อนคว่ำบาตรรัสเซีย

ธุรกิจสหรัฐวอนคองเกรสคิดรอบคอบก่อนคว่ำบาตรรัสเซีย โดยมองว่ามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถด้านการแข่งขันของบริษัทสหรัฐโดยตรง

ขณะที่ ประธานาธิบดี ไบเดน ของสหรัฐขู่ว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียถ้า ประธานาธิบดี ปูติน ส่งกำลังทหารเข้าโจมตียูเครน แต่บริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันบางแห่งและกลุ่มธุรกิจบางกลุ่มเรียกร้องให้ทำเนียบขาวและบรรดาส.ส.ตัดสินใจในเรื่องนี้ด้วยความระมัดระวัง 

กลุ่มการค้าดังกล่าวเป็นตัวแทนบริษัทชั้นนำอย่างเชฟรอน เจเนอรัล อิเล็กทริก และบริษัทอเมริกันชั้นนำรายอื่นๆ ที่ทำธุรกิจในรัสเซีย ขอร้องให้ทำเนียบขาวเพิ่มความระมัดระวังในการประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียครั้งนี้ ที่รวมถึงเลือกคว่ำบาตรเป็นบางบริษัทหรือบางผลิตภัณฑ์    

ขณะที่บรรดาบริษัทด้านพลังงานชั้นนำก็พยายามผลักดันให้สภาคองเกรสกำจัดขอบเขตและกรอบเวลาของการใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจครั้งนี้  
กลุ่มตัวแทนภาคเอกชนสหรัฐ เห็นว่า รัฐบาลสหรัฐควรออกรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับการคว่ำบาตร ซึ่งรวมถึงหลักการข้อยกเว้นความรับผิด (safe harbour) หรือกรอบระยะเวลาในการผ่อนคลายมาตรการ เพื่อเปิดทางให้บริษัทสามารถดำเนินการจัดส่งสินค้าได้ตามที่ทำสัญญากับคู่ค้าไว้ก่อนหน้านี้ รวมถึงพิจารณาเกี่ยวกับสินค้าประเภทยาที่ช่วยชีวิตผู้คน หรือการให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมตามนโยบายที่สหรัฐยึดถือมาตลอด

 “รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนและสภาคองเกรสจำเป็นต้องระบุรายละเอียดต่างๆของมาตรการคว่ำบาตร” เจค โคลวิน ประธานสภาการค้าต่างประเทศแห่งชาติของสหรัฐ กล่าวแก่สำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันจันทร์ (24ม.ค.)ที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ สมาชิกคนหนึ่งในสภาคองเกรส สหรัฐ เปิดเผยว่า บรรดาบริษัทด้านพลังงานทั้งหลายได้ยื่นเอกสารต่อบรรดา ส.ส.สหรัฐเพื่อขอเวลาให้ทรัพย์สินของพวกเขาในรัสเซีย ไม่ถูกอายัดกรณีที่สหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย
 

สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (เอพีไอ) ซึ่งเป็นองค์กรล็อบบี้ด้านการขุดเจาะก๊าซและน้ำมันใหญ่สุดในสหรัฐ ได้หารือเกี่ยวกับแผนคว่ำบาตรรัสเซียกับสภาคองเกรสด้วยเช่นกัน  

“มาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถด้านการแข่งขันของบริษัทสหรัฐโดยตรง” โฆษกเอพีไอ กล่าว

ประธานาธิบดีไบเดนของสหรัฐ แถลงเตือนเมื่อวันอังคาร (25 ม.ค.) ว่า การยกทัพโจมตียูเครนของรัสเซียอาจเป็นการรุกรานครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่2

“การรุกรานนี้อาจเปลี่ยนแปลงโลก” หากทหารรัสเซียหลายหมื่นนายที่ตรึงกำลังตามแนวพรมแดนรัสเซีย-ยูเครนเปิดปฏิบัติการบุกโจมตีดินแดนยูเครน

ความเห็นของปธน.ไบเดนสอดคล้องกับความคิดเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากขึ้นที่มองว่า ความขัดแย้งในยูเครนไม่น่าจะจำกัดอยู่ในวงแคบหรือดำเนินไปเพียงชั่วระยะเวลาสั้น ๆ แต่ผลกระทบจะลุกลามไปทั่วยุโรปและไปยังที่อื่น ๆ

ปธน.ไบเดน ยังบอกด้วยว่ายากที่จะคาดเดาการดำเนินการขั้นต่อไปของ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เมื่อถูกถามว่าโอกาสที่รัสเซียจะยกพลบุกยูเครนนั้นเพิ่มขึ้นหรือลดลงตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา

“เขาเสริมทัพตลอดแนวชายแดนยูเครนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เบลารุสเป็นต้นไป ดูเหมือนเขากำลังเตรียมลงมือทำบางอย่าง” ปธน.ไบเดน กล่าว

แต่เว็บไซต์สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า ปธน.ปูตินมักใช้ถ้อยคำที่คลุมเครืออย่างจงใจ ยิ่งไปกว่านั้น เศรษฐกิจรัสเซียพึ่งพาการส่งออกพลังงานสู่ยุโรป และมีแนวโน้มถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจโดยองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) หากทำการโจมตียูเครน

“หากปธน.ปูตินเดินหน้ารุกรานยูเครนทั้งประเทศ ย่อมจะก่อให้เกิดผลลัพธ์รุนแรง และสำหรับรัสเซียนั้น ไม่เพียงต้องเผชิญผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเมือง แต่ยังเผชิญผลกระทบที่ใหญ่หลวงทั่วโลกด้วย” ปธน.ไบเดน กล่าว

ขณะนี้สถานการณ์ยูเครนทวีความตึงเครียดมากขึ้น มีรายงานว่ารัสเซียกำลังตรึงกำลังทหารเกือบ 100,000 นายประชิดชายแดนยูเครน และอาจบุกโจมตียูเครนในไม่ช้า ขณะที่การเจรจาระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกเพื่อแก้ไขความขัดแย้งเกี่ยวกับยูเครนยังคงไม่มีความคืบหน้า

“ดมิทรี เพสคอฟ” โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าวว่า รัสเซียมีความกังวลเป็นอย่างยิ่ง หลังมีข่าวว่า สหรัฐได้เตรียมกำลังทหาร 8,500 นาย พร้อมเคลื่อนพลไปยังยุโรป หากวิกฤตการณ์ยูเครนเลวร้ายลง

ขณะที่มีข่าวว่า พลเรือนชาวยูเครนหลายพันคนพากันจับอาวุธเตรียมพร้อมรับมือการบุกของรัสเซีย รวมทั้งหญิงวัย 52 ปี ที่ลงทุนซื้อปืนไรเฟิลส ไนเปอร์ มาเป็นอาวุธคู่กายเพื่อสนับสนุนกองทัพของรัฐบาล

ชาวยูเครนได้ตั้งหน่วยอาสาสมัครเพื่อสนับสนุนทหาร 255,000 นายของกองทัพ เพื่อเตรียมพร้อมรับการบุกของรัสเซียที่นำไปสู่สงคราม ในจำนวนนี้รวมทั้ง “มาเรียนา ซัคโก” วัย 52 ปี นักวิจัยด้านการตลาดซึ่งเป็นคุณแม่ลูก 3 ที่ลงทุนซื้อปืน “ซิโบรยาร์ Z-15” (Zbroyar Z-15) เอาไว้ที่แฟลตในกรุงเคียฟ 

เธอบอกว่า “ฉันเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อปกป้องประเทศชาติ ในฐานะแม่ ฉันไม่อยากให้ลูก ๆ ต้องมารับปัญหาของยูเครน หรือส่งต่อภัยอันตรายไปให้พวกเขา มันจะเป็นการดีกว่าถ้าฉันจัดการเสียตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าเวลานั้นมาถึง ฉันก็จะสู้เพื่อเคียฟ จะต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเมืองของเรา ซึ่งตอนนี้หน่วยเฉพาะกิจของรัสเซียเข้าไปอยู่ในยูเครนแล้ว”

สอดคล้องกับที่“เบน วอลเลซ” รัฐมนตรีกลาโหมของอังกฤษ ที่แถลงก่อนหน้านี้ว่ากองกำลังรัสเซียอาจเข้าไปอยู่ในยูเครนแล้ว ซึ่งการข้ามพรมแดนเข้าไปไม่ว่าจะจำนวนน้อยหรือมากก็ถือเป็นการรุกล้ำอธิปไตย ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและเป็นการรุกราน

ซัคโก ได้เข้าเป็นอาสาสมัครของกองกำลังป้องกันดินแดน (Territorial Defence Forces) หรือทีดีเอฟ ที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ตามระดับความตึงเครียดบริเวณชายแดนระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งนอกจากเธอแล้ว ยังมีนักศึกษาตั้งแต่สาขาสัตวแพทย์ศาสตร์ไปจนถึงนักศึกษาสถาปัตยกรรมศาสตร์ร่วมป้องกันตนเองด้วย