2025 ปีแห่งการลงทุนใน Agentic AI
การลงทุนในธีม AI อยู่ในช่วงเริ่มต้น การเปลี่ยนกลุ่มลงทุนมีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายทั้งการเติบโตของกำไรและ Valuation จากต้นน้ำไปสู่กลุ่มปลายน้ำมากขึ้นกว่าปีก่อน และคาดว่าทั้งนักลงทุนและผู้ใช้จะได้เห็นทั้งพัฒนาการของ AI และบริษัทที่ใช้ AI เร่งการทำกำไรได้มากขึ้นในปีนี้แน่นอน
ธีม Artificial Intelligence (AI) เป็นหนึ่งในธีมลงทุนที่มีทำผลตอบแทนให้นักลงทุนดีต่อเนื่องในช่วงกว่าสองปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งจากพื้นฐานและความคาดหวัง ทำให้หุ้นผู้นำธีม AI ปรับตัวขึ้นจน Valuation สูงกว่าหุ้นทั่วไปในตลาดมาก เป็นคำถามของนักลงทุนหลายท่านในปีนี้ ว่าหุ้นเด่นของธีม AI จะไปต่อไหม และจะเป็นกลุ่มเดิม หรือกลุ่มไหนกันแน่ในปี 2025
ในมุมมองของผม ธีม AI เติบโตด้วยการสร้างการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอดและคงแปลกที่เราจะไม่คาดหวังการเปลี่ยนแปลงจากธีมลงทุนนี้
สำหรับปี 2025 ผมมองว่าการเปลี่ยนแปลงแรก คือการขยับจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไปสู่การสร้างธุรกิจ
จุดเด่นของ AI ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอยู่ที่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ AI ในมูลค่าสูง บริษัทที่พัฒนา AI และสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองกับการสอน AI (เราเรียกรวมว่ากลุ่ม Pioneers และ Enablers) เป็นสองกลุ่มที่ทำผลตอบแทนดีที่สุด
แต่จากการรวบรวมข้อมูลของผม พบว่ากลุ่มบริษัท Technology ใหญ่ในสหรัฐ มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไปแล้วด้วยงบประมาณรวมกันกว่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์สำหรับปี 2024-25 ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทที่นำ AI ไปสร้างรายได้ต่อ (Adopters และ Performers) คาดว่าจะทำรายได้จากบริการ AI รวมกันเพียงราว 1 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้
เป็นที่มาว่าปี 2025 อาจไม่ใช่ปีที่จะเห็นแต่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แต่คาดว่าต้องเป็น The Year of Agentic AI ที่มองเห็นกำไรบ้าง
คำถามสำคัญถัดไป ไม่ใช่ว่าบริษัทเทคโนโลยี อยากขาย AI อะไรกับผู้บริโภค แต่อยู่ที่ว่าผู้ใช้กลุ่มไหน มองเห็นประโยชน์ในการประยุกต์ใช้ AI ในกิจกรรมไหนบ้าง และใช้ไปแล้วมากน้อยแค่ไหน
ในภาพรวม ปี 2025 “เวลา” สำหรับ AI เป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย
ข่าวดีที่สุดคือเรื่องสัดส่วนการประยุกต์ใช้ (Adoption) จากรายงานของ Bick et al. (2024) เรื่อง The Rapid Adoption of Generative AI ประเมินว่าเราอยู่ในช่วงเริ่มต้นที่มี Adoption เพียงราว 40% และเทียบกับ Internet ที่ใช้เวลาราว 25ปี ในการเพิ่ม Adoption จาก 40% ไปเป็น 90% ถือว่าธีมนี้มี “เวลา” และโอกาสรออยู่อีกยาวไกล
แต่ในฝั่งของการลงทุนและประยุกต์ใช้ รายงานล่าสุดจาก ETR ชี้ว่า 80% มองว่าจะนำ AI มาใช้ในกิจกรรมที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูล แม้จะสามารถเพิ่มงบลงทุนในส่วนของ AI ได้จากการลดงบประมาณเรื่อง IT ด้านอื่นเช่น Security ออก แต่มากกว่า 25% ของบริษัทในสหรัฐ ไม่แน่ใจว่าองค์กรจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนใน AI หรือไม่ ขณะที่อุปสรรคในการนำไปใช้ มักเกิดจากความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ความปลอดภัย และข้อกำหนดทางกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามกฎระเบียบของแต่ละประเทศ สรุปรวมว่าปีนี้ ก็อาจไม่ใช่ “เวลา” ที่การประยุกต์ใช้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดเช่นเดียวกัน
สำหรับปี 2025 ผมขออนุญาตพยากรณ์ 3 เรื่องที่คาดว่าจะเกิดขึ้นบนธีมการลงทุน AI ประกอบด้วย
1. M&A จะเกิดขึ้นเพื่อรวมกลุ่มธุรกิจ
ผมมองว่าปี 2025 เป็นปีที่งบลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อาจไม่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้บริษัทใหญ่มีเงินทุนเหลือที่จะซื้อธุรกิจที่สามารถประยุกต์ใช้ AI ทำรายได้มากขึ้น ขณะที่การควบรวมคาดว่าจะเน้นไปที่ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน Cloud กลุ่ม Cybersecurity และ Enterprise Software การลงทุนที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ มองว่าเป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่
2. การแข่งขันเรื่องราคาจะเกิดมากขึ้น
ช่วงปีสองปีที่ผ่านมา เราได้เห็นโครงสร้างธุรกิจให้บริการ AI หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น แบบต่อครั้ง แบบสมัครสมาชิก ไปจนถึงแบบซื้อขาด และการคิดต้นทุนก็มีความหลากหลาย ทั้งแบบปรกติแบบตามต้นทุนส่วนเพิ่ม ไปจนถึงตามความยากง่าย หรือความเร็ว ผมมองว่าท้ายที่สุดผู้ใช้จะยอมจ่ายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความคุ้มค่าของผลลัพธ์ เป็นบวกกับกลุ่ม Pioneer ที่เพิ่มประสิทธิภาพสินค้าได้ Semiconductors หรือกลุ่ม Adaptor Software ที่สร้างมูลค่าเพิ่มหรือลดต้นทุนให้ผู้ใช้ได้ทันที
3. ตลาดจะให้มูลค่ากับบริษัทที่กำไรเติบโตจาก AI มากขึ้น
ผมมองว่าช่วงก่อนหน้านี้ ตลาดให้คุณค่ากับนวัตกรรม การวิจัย และการพัฒนาการของ AI มากกว่าการนำ AI ไปแสวงหากำไร แต่เมื่อสังคมเริ่มตระหนัก และเข้าใจถึงสิ่งที่ AI ทำได้แล้ว คุณค่าขั้นต่อไปคาดว่าจะมาจากการสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนตามปรกติ คาดว่าแนวโน้มนี้จะเป็นผลดีกับกลุ่ม Pioneer เช่น Semiconductors และ Performers ที่มีบริการถึงมือผู้บริโภค และคาดว่ากำไรจะเติบโตสูง
โดยสรุป ผมมองว่าการลงทุนในธีม AI อยู่ในช่วงเริ่มต้น การเปลี่ยนกลุ่มลงทุนมีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายทั้งการเติบโตของกำไรและ Valuation จากต้นน้ำไปสู่กลุ่มปลายน้ำมากขึ้นกว่าปีก่อน และคาดว่าทั้งนักลงทุนและผู้ใช้จะได้เห็นทั้งพัฒนาการของ AI และบริษัทที่ใช้ AI เร่งการทำกำไรได้มากขึ้นในปีนี้แน่นอนครับ