วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (12 พ.ค. 65)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (12 พ.ค. 65)

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม จากความกังวลต่อสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น หลังตลาดกังวลความไม่แน่นอนในตลาดพลังงานโลก  หลังรัสเซียปรับลดการส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยุโรป จากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรของหลายประเทศ ส่งผลให้ราคาน้ำมันและก๊าซปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่สหรัฐฯ และพันธมิตรยังคงเจรจาถึงมาตรการคว่ำบาตรอย่างต่อเนื่อง

+/- ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในปี 2565 เนื่องจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียทำให้เกิดความกังวลเรื่องอุปทาน ขณะที่ โฆษกของสหภาพยุโรป (EU) เผยว่ากำลังมองหาการสนับสนุนฮังการีในการเพิ่มขนาดท่อส่งน้ำมัน การจัดเก็บ และการกลั่นเพื่อสนับสนุนความต้องการใช้น้ำมันในยุโรปตะวันออก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตที่เกิดจากการควบคุมโควิด-19 ของจีนและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ 

- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 6 พ.ค. 65 ปรับเพิ่มขึ้น 8.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 424.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง 0.5 ล้านบาร์เรล โดยส่วนใหญ่มาจากการปล่อยน้ำมันสำรองเชิงกลยุทธ์และการเพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบของประเทศต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการจากผู้ซื้อ
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากการผลิตน้ำมันเบนซินของอินเดียที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ที่ปรับดีขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ นอกจากนี้ตลาดยังคงกังวลเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ของศรีลังกาแม้จะมีข่าวว่าอินเดียจะขยายวงเงินสินเชื่อให้แล้วก็ตาม


ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบเนื่องจากความต้องการน้ำมันน้ำมันดีเซลที่แข็งแกร่งจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในภูมิภาค ท่ามกลางอุปทานที่อาจปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงกลั่นในภูมิภาค
 

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (12 พ.ค. 65)