CBG - ครึ่งหลังจะดีกว่าครึ่งแรก (23 พ.ค. 65)

CBG - ครึ่งหลังจะดีกว่าครึ่งแรก (23 พ.ค. 65)

มองกำไร 2Q ยังได้รับผลกระทบจากต้นทุนอะลูมิเนียมที่สูง แต่เราคาดว่ากำไร 2H จะเติบโตดี yoy หนุนจาก (1) การฟื้นตัวของยอดขายส่งออกตามสถานการณ์โควิดที่ดีขึ้น และ (2) ต้นทุนอะลูมิเนียมลดลง

เราปรับคำแนะนำ CBG ขึ้นเป็น ซื้อ ปรับราคาเป้าหมายเป็น 130 บาท (จาก 108 บาท) หนุนโดย (1) Demand ฟื้นตัวตามการเปิดเมือง และ(2) ต้นทุนอะลูมิเนียมลดลงใน 2H

 

กำไรสุทธิ 1Q กดดันจากต้นทุนอะลูมิเนียมสูงขึ้น 

CBG รายงานกำไร 660 ลบ. ใน 1Q (-6% yoy, +8% qoq) ดีกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ (608 ลบ.) 9% กำไรขั้นต้น 1Q ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเป็น 30.7% จาก 38.6% ใน 1Q21 จาก (1) ต้นทุนอะลูมิเนียมสูงขึ้น และ (2) รายได้จากธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังที่ลดลง

 

ต้นทุนอะลูมิเนียมที่สูงขึ้นยังเป็นปัจจัยกดดันใน 2Q
 

CBG คงราคาขายเครื่องดื่มชูกำลังที่ 10 บาทต่อขวดเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด มองกำไร 2Q ยังได้รับผลกระทบจากต้นทุนอะลูมิเนียมที่สูง เนื่องจากยังมีต้นทุนวัตถุดิบที่ต้นทุนสูงค้างอยู่ในสตีอค บริษัทฯ พยายามลดผลกระทบจากต้นทุนอะลูมิเนียมสูงขึ้นโดย (1) ปรับราคาขายส่งขึ้น 1-2% และปรับส่วนลดดีลเลอร์ลง 3-5% และ (2) ปรับมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีน้ำหนักเบาลง

 

 

 

 

แต่กำไร 2H มีแนวโน้มดีขึ้น yoy

หนุนโดย (1) การฟื้นตัวของยอดส่งออกตามสถานการณ์โควิดดีขึ้น และ (2) ต้นทุนอะลูมิเนียมอ่อนแอลงเนื่องจากการผลิตในจีนเร่งตัวขึ้นหลังนโยบายควบคุมมลพิษในช่วงโอลิมปิกฤดูหนาวหมดลง รวมถึงภาวะขาดแคลนพลังงานในจีนผ่อนคลายลง จีนเป็นประเทศผู้ผลิตอะลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุด 57% ของการผลิตทั่วโลกและส่งออกเป็น 28% ของการค้าทั่วโลก

 

ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ ปรับราคาเป้าหมายเป็น 130 บาท (จาก 108 บาท)

เราปรับคาดการณ์กำไรปี FY22F และ FY23F ขึ้น 5% และ 7% เป็น 3.2 พันลบ. และ 3.7 พันลบ. ตามลำดัล จากการปรับสมมติฐานต้นทุนอะลูมิเนียมลงและปรับอัตรากำไรขั้นต้นขึ้น เราปรับคำแนะนำ CBG ขึ้นเป็น ซื้อ จากถือ เนื่องจาก (1) Demand ฟื้นตัวตามการเปิดเมือง และ(2) ต้นทุนอะลูมิเนียมลดลงใน 2H TP ของเราอ้างอิง DCF โดยใช้ค่า 6.9% WACC