A5 จ่อเพิ่มทุน 200 ล้านบาท หวังเข้าซื้อกิจการอสังหาฯ มูลค่ารวมไม่เกิน 220 ล้านบาท

A5 จ่อเพิ่มทุน 200 ล้านบาท หวังเข้าซื้อกิจการอสังหาฯ มูลค่ารวมไม่เกิน 220 ล้านบาท

A5 จ่อเพิ่มทุน RO หุ้นละ 1 บาท 200 ล้านบาท หวังเข้าลงทุน 47.5% ใน"ต้นสน ดีเวลลอปเม้นท์" มูลค่าไม่เกิน 220 ล้านบาท

บริษัท แอสเซท ไฟว์ จำกัด (มหาชน) หรือ A5 แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2562 อนุมัติให้บริษัทซื้อหุ้น 47.5% ในบริษัท ต้นสน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (TONSON) จากบริษัท ทริลเลี่ยนแนร์ โฮลดิ้ง จำกัด ในราคาไม่เกิน 220 บาท โดยจะชำระค่าตอบแทนเป็นเงินสด อีกทั้งอนุมัติให้บริษัทให้เงินกู้ยืมแก่ TONSON ตามสัดส่วนการถือหุ้น จำนวนไม่เกิน 70 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 8% ต่อปี เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำรองในการพัฒนาโครงการต้นสน วัน เรสซิเดนซ์

ทั้งนี้ การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย. 2563 ซึ่งเป็นภายหลังจาก TONSON ได้รับความเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และใบอนุญาตก่อสร้าง

ปัจจุบัน TONSON พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวสูง ได้แก่ โครงการ ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์ (Tonson One Residence) ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม 29 ชั้น ระดับ Super Luxury ตั้งอยู่ในซอยต้นสน ตรงข้ามเซ็นทรัล ชิดลม ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส ชิดลม  150 เมตร เป็นพื้นที่ที่มีกรรมสิทธิ์สมบูรณ์ (Freehold) ที่หายากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร มูลค่าโครงการ 2.85 พันล้านบาท โดย ณ วันที่ 9 ธ.ค.62 มียอดจองและทำสัญญาแล้วจำนวน 53 ยูนิต หรือคิดเป็น 66.25% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด รวมถึงมียอดจองแล้วอยู่ระหว่างทำสัญญา 12 ยูนิต
          

สำหรับแหล่งเงินลงทุนที่บ่ริษัทจะใช้ลงทุน TONSON จะมาจากเงินทุนหมุนเวียน การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน และการออกเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท โดยคาดว่าการลงทุนดังกล่าวจะทำให้ได้รับกำไรจากการขายห้องชุดในโครงการ และสามารถขจัดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างบริษัท และนายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ ของ A5 ขณะที่ยังเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัท ทริลเลี่ยนแนร์ โฮลดิ้ง จำกัดด้วย รวมถึงการลงทุนดังกล่าวยังจะสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัท ในฐานะเป็นผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ที่มีราคาต่อหน่วยสูง และอยู่ในกลางใจเมือง

นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนเป็น 561.5 ล้านบาท จากเดิมที่ 1.12 พันล้านบาท ด้วยการลดมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) จากหุ้นละ 1 บาท เป็นหุ้นละ 0.50 บาท เพื่อหักลบส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นและชดเชยผลขาดทุนสะสมบางส่วน หลังจากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 661.5 ล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 200 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ซึ่งจะมีการกำหนดอัตราส่วนการจัดสรรในภายหลัง แต่ได้กำหนดราคาขายที่หุ้นละ 1 บาท เพื่อใช้ในการซื้อหุ้น TONSON
          

นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนเป็น 561.5 ล้านบาท จากเดิมที่ 1.12 พันล้านบาท ด้วยการลดมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) จากหุ้นละ 1 บาท เป็นหุ้นละ 0.50 บาท เพื่อหักลบส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นและชดเชยผลขาดทุนสะสมบางส่วน หลังจากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 661.5 ล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 200 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ซึ่งจะมีการกำหนดอัตราส่วนการจัดสรรในภายหลัง แต่ได้กำหนดราคาขายที่หุ้นละ 1 บาท เพื่อใช้ในการซื้อหุ้น TONSON