CK - ซื้อ
ได้ลูกๆ ช่วยหนุน
รายได้ปี FY21F อาจทรงตัวแต่กำไรจะฟื้นตัว yoy หนุนจากส่วนแบ่งกำไรกิจการร่วมค้าและรายได้เงินปันผลที่สูงขึ้นจากบริษัทลูก บริษัทมีโอกาสได้สัญญาโครงการใหม่มากขึ้นในปีนี้จากความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้างใต้ดิน คงคำแนะนำ ซื้อ พร้อม ปรับราคาเป้าหมายเป็น 21.60บาท (จาก 26.0 บาท)
งบประมาณก่อสร้างจะฟื้นตัวใน 2021
เราคาดว่ารัฐบาลจะมีการประมูลงานก่อสร้างมูลค่า 4.0-6.0 แสนลบ. ในปีนี้ซึ่งรวมถึงโครงการขนาดใหญ่ เช่น (1) รถไฟรางคู่ของ รฟม. (จะประกาศผู้ชนะในมิ.ย.), (2) รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (เปิดขายซองประมูลในมิ.ย.), (3) รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก(อยู่ในขั้นตอนรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน), และ (4) อุโมงค์ระบายน้ำของ กทม. และยังไม่รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าหลวงพระบางมูลค่า 1.4 แสนลบ. ซึ่งอาจเห็นความคืบหน้าใน มิ.ย. เช่นกัน ขณะที่ CK ตั้งเป้าได้โครงการใหม่มูลค่า 8.6 หมื่นลบ.เพื่อเพิ่มระดับ backlog ให้สูงกว่า 1.0 แสนลบ. เทียบกับ 2.91 หมื่นลบ. ณ ธ.ค. 20 ที่ผ่านมา
รายได้ปี FY21F ทรงตัวแต่กำไรมีแนวโน้มฟื้นตัว yoy
เราคาดว่า CK จะมีรายได้ปี FY21F ที่ 1.67 หมื่นลบ. (1.5 หมื่นลบ. จาก backlog ในมือที่สามารถรับรู้รายได้ในปีนี้) เทียบกับรายได้ 1.69 หมื่นลบ. ในปี FY20 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัวอยู่ที่ 9.0% เทียบกับ 9.4% ในปี FY20 แต่เราคาดว่าส่วนแบ่งกำไรกิจการร่วมค้าและรายได้เงินปันผลจะเพิ่มขึ้นตามบริษัทลูกที่คาดว่ากำไรจะฟื้นตัว yoy หลังเปิดเมือง
คงคำแนะนำ ซื้อ พร้อมราคาเป้าหมายใหม่ 21.60บาท (จาก 26.0 บาท)
เราปรับประมาณการกำไรปี FY21F และ FY22F ลง 67% และ 33% สู่ระดับ 777ลบ. และ 2,085 ลบ. ตามลำดับหลังจากปรับสมมติฐานรายได้ลงเนื่องจากความล่าช้าของโครงการรัฐบาลหลายโครงการ คงคำแนะนำ ซื้อ โดยมีปัจจัยสนับสนุนได้แก่: (1) ส่วนแบ่งกำไรกิจการร่วมค้าและรายได้เงินปันผลที่สูงขึ้นจาก JVs (BEM, CKP, และ TTW) จะลดความผันผวนของกำไร, (2) โอกาสในการได้สัญญาโครงการใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มงานใต้ดินซึ่ง CK มีความได้เปรียบทางการแข่งขัน ราคาเป้าหมายของเราอิงวิธี Sum-of-The-Parts