“หอการค้าต่างประเทศ” ถก3ชาติขอซื้อวัคซีนเพิ่ม หวังดันเศรษฐกิจ-ลงทุนฟื้น

“หอการค้าต่างประเทศ” ถก3ชาติขอซื้อวัคซีนเพิ่ม หวังดันเศรษฐกิจ-ลงทุนฟื้น

หอการค้าต่างชาติ หารือ 3 ชาติเจรจาขอซื้อวัคซีนเพิ่มให้ไทย เพื่อฉีดให้มากที่สุด หวังลดความเสียหาย เศรษฐกิจ การลงทุนต่างชาติ ฟื้น

นายสแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) เปิดเผยว่า ขณะนี้หอการค้าต่างประเทศได้ประสานกับหอการต่างชาติเพื่อขอให้ช่วยประสานการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้กับประเทศไทย เพิ่มเติมจากที่รัฐบาลเจรจาจัดหาไว้ ตามที่นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยได้ประสานให้ดำเนินการในเรื่องนี้ เบื้องต้นได้หารือกับประธานหอการค้าไทย-จีน แล้ว

 

เพื่อหาลู่ทางนำเข้าวัคซีนที่ผลิตในประเทศจีน ทั้งซิโนแวค หรือชิโนฟาร์ม  เพิ่มเติมจากที่รัฐบาลไทยได้เจรจาไปแล้วก่อนหน้านี้  ถ้าสามารถดำเนินการได้ก็จะเสนอให้รัฐบาลไทย ดำเนินการเจรจาจัดซื้อและนำเข้าเอง

 

นอกจากนี้ยังได้เจรจากับทางรัสเซียที่ผลิตวัคซีนสปุตนิก วี และสหรัฐอเมริกาที่ผลิตวัคซีนไฟเซอร์ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เพื่อขอให้จัดสรรวัคซีนที่มีอยู่ให้กับทางไทยด้วย  ในขณะที่วัคซีนยี่ห้อไหน ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยา(อย.)ก็ต้องเร่งดำเนินการ ขึ้นทะเบียนให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้นำเข้าวัคซีนทางเลือกได้ ทั้งนี้เพื่อที่จะเร่งนำเข้าได้ทันท่วงที

 

“การติดเชื้อโควิด ไม่ได้แยกคนไทยหรือคนต่างชาติ ดังนั้นต้องเร่งจัดหาวัคซีนทางเลือกให้เข้ามาให้ได้มากที่สุด ไม่เฉพาะแค่ 3 ยี่ห้อเท่านั้น ยี่ห้ออื่นด้วย ซึ่งประเทศไทยมีนักลงทุนจากต่างชาติ เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากทั้งจีน สหรัฐ รัสเซีย เมื่อวัคซีนเข้ามาจำนวนมากทุกคนก็จะได้ฉีดกันได้อย่างทั่วถึง เศรษฐกิจของประเทศก็ฟื้นตัวได้ ซึ่งนักลงทุนต่างชาติต้องการให้ไทยเร่งฉีดวัคซีนให้มากที่สุด ”

นายสแตนลีย์ กล่าวว่า ขณะนี้ความต้องการวัคซีนทั่วโลกมีจำนวนมาก แต่การผลิตยังไม่เพียงพอ  ดังนั้นแนวทางใด หรือภาคเอกชนรายใด หากสามารถประสานนำเข้าวัคซีนได้ ก็อยากให้เร่งประสาน เพื่อนำเข้ามาฉีดในประเทศไทยให้มากที่สุด โดยต้องฉีดทั้งหมด  ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ

 

ทั้งนี้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ สถานการณ์ต่างๆจะได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจของไทย ความเสียหายด้านต่างๆก็จะลดลง ส่วนราคาวัคซีนที่มีอยู่ในขณะนี้ ถือว่าไม่สูงมากหากเทียบกับผลการรักษาคนที่ติดโควิด ดังนั้นต้องเร่งนำวัคซีนมาให้ได้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็ตาม

 

“ส่วนตัวคิดว่า ไม่มีประเทศไหนในโลกที่มีวัคซีนเหลือ แม้ว่าจะฉีดให้คนในประเทศหมดแล้วก็ยังคงต้องสำรองวัคซีนไว้เพื่อเหตุฉุกเฉิน ดังนั้นจะต้องซื้อโดยตรงกับผู้ผลิตผ่านรัฐบาลเป็นผู้ซื้อ  อีกทั้งผู้ผลิตเองก็เลือกที่จะขายให้กับใครด้วย ซึ่งนอกจากราคาแล้วก็ยังพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศผู้ผลิตและประเทศไทย หากว่ามีผู้ผลิตวัคซีนอื่นนอกจาก 3 ประเทศนี้ ทางหอการค้าต่างประเทศก็ประสานขอซื้อวัคซีนทางเลือกให้กับประเทศไทย โดยทางภาคเอกชนพร้อมที่จะสนับสนุนรัฐบาลทุกด้าน”

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะได้วัคซีนมาแล้ว การเตรียมความพร้อมในการฉีดวัคซีนก็มีความสำคัญ  จึงต้องเตรียมสถานที่ให้พร้อม เจ้าหน้าที่ บุคลากร ระบบไอที ซึ่งทางหอการค้าต่างประเทศได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัทด้านเทคโนโลยี เพื่อไปช่วยกับทางหอการค้าไทยในเรื่องไอที ในการเตรียมความพร้อมฉีดวัคซีน เช่น ไอบีเอ็ม เป็นต้น

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า วัคซีนยิ่งมีจำนวนมาก คนไทยก็จะได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้นเท่านั้น รวมถึงนักลงทุนต่างชาติที่อยู่ในไทยด้วย ขณะนี้วัคซีนก็เริ่มทยอยเข้าประเทศไทย แล้วทางหอการค้าไทยก็ได้ประสานกับกทม. ในการเตรียมความพร้อมด้านสถานที่ฉีดวัคซีนของภาคเอกชน เพื่อให้สามารถให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนให้ได้เร็ว ล่าสุดก็หารือกับกทม.เพิ่มสถานที่ฉีดวัคซีนเอกชนรวมเป็น 25 จุด จากเดิม 14 แห่ง เพื่อกระจายสถานที่ให้เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด