วัดฝีมือ “วิชัย โภชนกิจ” ปธ.บอร์ดอคส.คนใหม่ สางทุจริต เพิ่มรายได้ ลดขาดทุน

อคส.หรือองค์การคลังสินค้า  เป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์ ก่อตั้งมาครบ 67 ปีและก้าวสู่ปีที่ 68   อคส.เป็นองค์กรดำเนินธุรกิจการค้าและธุรกิจโลจิสติกส์ที่ได้มาตรฐานสากลเพื่อสนองนโยบายของรัฐและเป็นทางเลือกให้แก่ภาครัฐและภาคเอกชน ภารกิจ บริหารจัดการโครงการของรัฐ ตามนโยบายรัฐบาล ดำเนินธุรกิจการค้าและธุรกิจโลจิสติกส์เพื่อสนับสนุนการแข่งขันและเพิ่มประสิทธิภาพของตลาด จึงเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญทั้งทางด้านการผลิต การตลาด และการบริหารจัดการภาคการเกษตร

แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่าน อคส.กลายเป็น”ขุมทรัพย์”ของกลุ่มที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ กลายเป็นแดนสนธยา มีเรื่องราวที่ไม่ชอบซุกอยู่ใต้พรม ซึ่งมักจะถูกกล่าวถึงในแง่ของการไม่โปร่งใสในการบริหารขององค์กรและมักมีข่าวฉาวมาให้เห็นเป็นระยะๆ ที่โดยเฉพาะการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว  ล่าสุดก็การทุจริตการจัดซื้อถุงมือยางแสนล้านบาท  ซึ่งทั้ง 2 โครงการถือเป็นการทุจริตครั้งใหญ่ของอคส.ไม่นับรวมเรื่องอื่นๆ  ทำให้อคส.เป็นองค์กรที่ขาดทุนสะสมเป็นเวลานาน

ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.)หรือบอร์ดอคส. ชุดใหม่  แทนชุดเก่าที่หมดวาระจำนวน 7  คน  ได้แก่ 1.นายวิชัย โภชนกิจ ประธานกรรมการ 2.นายศรายุทธ ยิ้มยวน รองประธานกรรมการ 3.นายมงคล เหล่าวรพงศ์ กรรมการ 4.รองศาสตราจารย์อัศม์เดช วานิชชินชัย กรรมการ 5.นายสกล กิตติ์นิธิ กรรมการ 6.นายคมฤทธิ์ กวินอัครฐิติ กรรมการ และ 7.นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ กรรมการ

บอร์ดอคส.ชุดใหม่ที่มี” นายวิชัย โภชนกิจ “เป็นประธานบอร์ด คาดหวังว่า  จะเป็น”หัวเรือ” พาองค์กรกลับมาเป็นที่เชิดหน้าชูตาได้อีกครั้ง  “วิชัย” ซึ่งไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหนก่อนหน้าเป็นอธิบดีกรมการค้าภายในซึ่งก่อนเกษียณราชการในปี2563 ถูกมรสุมลูกใหญ่ต้องไปนั่งตบยุงอยู่ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจากกรณีการกักตุนและจำหน่ายหน้ากากอนามัย แต่ฝ่ามรสุมกลับมานั่งในตำแหน่ง”อธิบดีกรมการค้าภายใน”จนเกษียณอายุราชการ  ซึ่ง”นายวิชัย” ถือเป็นคนเก่ง มีความสามารถ และได้รับการยอมรับในฝีมือการทำงานทั้งในวงราชการและเอกชน

โดยภายหลังจากเกษียณอายุราชการ ได้รับการแต่งตั้งเป็นทีมที่ปรึกษาของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และที่ปรึกษาอธิบดีกรมการภายในคนปัจจุบัน และต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานบอร์ด อคส. 

ภารกิจสำคัญของ”ประธานบอร์ด”คนใหม่ หนีไม่พ้นการสะสางคดีทุจริตสำคัญๆที่สะสมอยู่ในอคส.โดยเฉพาะการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ที่ทำให้อคส.ขาดทุนสะสมมาจนถึงปัจจุบัน แถมยังต้องเป็นโจทย์ฟ้อง ขณะเดียวก็เป็นจำเลยถูกเอกชนฟ้องกลับ  รวมทั้งการทุจริตถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท ที่เกิดขึ้นในสมัยบอร์ดชุดเก่า ที่มีนายสุชาติ เตชจักรเสมา เป็นประธานบอร์ด อคส.  และ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการ อคส .

ปัจจุบันคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการชี้มูลความผิดทางอาญาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.)  ส่วนคดีแพ่งก็อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามฟอกเงิน (ป.ป.ง.)เพื่อติดตามเส้นทางการเงินและนำเงิน ค่ามัดจำ 2 พันล้านบาทกลับมาคืนให้กับอคส.

นอกจากนี้ภารกิจอีกประการหนึ่งคือ การสร้างรายได้ให้กับอคส. ซึ่งอคส.มีกิจการหลายอย่างที่จะทำสร้าง”รายได้”ให้กับอคส.ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ผ่านการดำเนินโครงการต่าง ๆ ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากคลังสินค้าที่มีอยู่ในปัจจุบันในหลายแห่ง

ถือเป็นสิ่งท้าทายฝีมือของ”ประธานบอร์ดอคส.”คนใหม่  ที่ประสบความสำเร็จในบทบาทของนักบริหารที่รับราชการ แต่ครั้งนีี้กับ"บทบาท"ในฐานะ บอร์ดบริหารรัฐวิสาหกิจ  ที่ต้องบริหารกิจการของอคส. ให้ฟื้นกลับมา และพลิกสถานะขององค์กร อคส.ให้เป็นรัฐวิสาหกิจชั้นแนวหน้าของประเทศ เวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์