ไทย - มาเลเซีย เดินหน้าสะพานโก-ลก 2 แห่ง คุยคณะทำงาน ธ.ค.นี้
ไทย - มาเลเซีย เร่งเดินหน้าพัฒนาด่านชายแดนใต้ - สะพานข้ามแม่น้ำโก-ลกสองแห่ง เตรียมจัดคุยคณะทำงานสองประเทศ ธ.ค.นี้ เร่งความร่วมมือ
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลไทย และมาเลเซียเห็นชอบร่วมกันในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อไทย และมาเลเซียในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา รัฐมนตรีอาวุโส และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการมาเลเซีย (Ministry of Works) ได้เดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อติดตามความคืบหน้าพร้อมร่วมหารือกับฝ่ายไทย
โดยเฉพาะประเด็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตามแนวชายแดนไทย – มาเลเซีย อาทิ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Idonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle: IMT-GT)
โดยจะมีการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ที่ อ.สุไหง-โกลก (สุไหงโก-ลก - รันเตาปันยัง) แห่งที่ 2 คู่ขนานกับสะพานเดิม โดยฝ่ายมาเลเซียรับผิดชอบออกแบบ รายละเอียด และอีกสะพาน ที่อำเภอตากใบ (ตากใบ – เปิงกาลันกูโบร์) ซึ่งมีแนวเส้นทางจุดเริ่มต้นที่สามแยกตากใบ เป็นสามแยกจุดตัดของฝั่งประเทศไทย สิ้นสุดทางหลวงของประเทศมาเลเซีย มีระยะทาง 11 กิโลเมตร ออกแบบเป็นถนน 4 – 6 ช่อง ถนน ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกในเรื่องการคมนาคม และการค้าชายแดน รวมทั้งรองรับนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่มีเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ สะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก จุดปัจจุบัน มีความคับแคบไม่สะดวกต่อการตอบสนองการเติบโตทางเศรษฐกิจและการเดินทางของประชาชน และนักท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศที่ในแต่ละวันมีเป็นจำนวนมาก
มากไปกว่านั้น ทั้งสองประเทศยังมีโครงการเชื่อมด่านศุลกากรสะเดาแห่งที่สอง-ด่านบูกิตกายูฮิตัม และโครงการพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยง จังหวัดสตูล-รัฐเปอร์ลิส มาเลเซีย ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะมีการจัดทำ MOU ร่วมกันต่อไป
นางสาวรัชดา กล่าวต่อว่า รัฐมนตรีอาวุโส และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการมาเลเซีย จะเร่งนำขอเสนอของฝ่ายไทยไปเรียนนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และคณะรัฐมนตรีต่อไป
โดยมาเลเซียพร้อมเร่งรัดการดำเนินในรายละเอียดให้มีความคืบหน้าโดยเร็วที่สุด รวมถึงการสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ - ด่านศุลกากรบูกิตกายูฮิตัม มาเลเซีย ที่จะร่วมกันจัดการประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค (Expert Working Group: EWG) ไทย – มาเลเซีย ครั้งที่ 2 ในเดือนธันวาคม เพื่อให้สามารถเปิดใช้ด่านศุลกากรแห่งใหม่ได้โดยเร็ว
“รัฐบาลทั้งสองประเทศมีความเชื่อมั่นว่า โครงการเหล่านี้จะนำไปสู่การขยายตัวทางการค้า การท่องเที่ยว รวมถึงสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชนมากขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ เกินประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน” นางสาวรัชดา กล่าว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์