'ทสท' ค้านเปิดเสรีน้ำมันสำเร็จรูป หวั่นน้ำมันเถื่อนแย่งตลาด

'ทสท' ค้านเปิดเสรีน้ำมันสำเร็จรูป หวั่นน้ำมันเถื่อนแย่งตลาด

"ไทยสร้างไทย" ค้านนโยบายนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรี หวั่นเกิดน้ำมันเถื่อน ด้านคนวงการน้ำมัน ระบุ นำเข้าเสรีใช่ว่าจะถูกจริง "พลังงาน" ระบุ ราคาถูก-แพง ขึ้นอยู่กับต้นทุนที่นำเข้า ขอรอฟังแนวทาง รมว.พลังงาน ก่อน

นายภัชริ นิจสิริภัช กรรมการบริหาร และคณะทำงานด้านพลังงานพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวว่า กรณี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ออกมาระบุถึงแนวคิดที่เตรียมจะนำเข้าเสรีน้ำมันสำเร็จรูปมาจำหน่ายในประเทศไทยนั้นแสดงให้เห็นว่า ผู้มีอำนาจที่รับผิดชอบดูเรื่องโครงสร้างพลังงานของประเทศยังไม่รู้จักโครงสร้างราคาน้ำมัน 

นอกจากนี้ ยังไม่รู้จักกลไกของน้ำมันที่แท้จริง โดยเฉพาะเมื่อต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ว่าใครจะเป็นผู้นำเข้า รัฐบาลจะดำเนินการเองหรือเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีศักยภาพและเงินทุนมากเพียงพอเพราะส่วนต่างกำไรของการค้าน้ำมันน้อยมาก ถือเป็น Economy of Scale

"ใครจะเป็นคนจัดจำหน่าย และจะจำหน่ายปันส่วนอย่างไรให้เพียงพอกับความต้องการ ที่มีปริมาณมากในระดับประมาณ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และจะนำเข้าน้ำมันจากที่ไหน หรือจากโรงกลั่นใดให้คุ้มค่ากับค่าขนส่ง ขณะที่การจัดเก็บภาษีต่าง ๆ จะยกเว้นหรือไม่ หรือจัดเก็บเหมือนเดิม ถ้าจัดเก็บเหมือนเดิม ราคาน้ำมันจะถูกกว่าเดิมอย่างไร เป็นต้น"

นอกจากนี้ ต้นทุนการกลั่นน้ำมันทั่วโลกมีความใกล้เคียงกัน ซึ่งหมายถึง ราคาหน้าโรงกลั่นทั่วโลกก็จะมีราคาพอ ๆ กัน เพราะมีราคากลางที่อ้างอิงกันทั่วโลก และเมื่อมีการนำเข้าเสรี การควบคุมใครจะเป็นคนควบคุม โดยเฉพาะน้ำมันเถื่อนที่ทะลักเข้ามา ที่สำคัญหากนำเข้าได้จริง โรงกลั่นที่อยู่ในประเทศไทยทั้ง 7 แห่ง จะดำเนินการอย่างไร และมีแผนรองรับอุตสาหกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับโรงกลั่นมากมาย รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร

ขณะที่ นายรณกาจ ชินสำราญ กรรมการบริหารและ คณะทำงานด้านพลังงานพรรคไทยสร้างไทย (ทสท) กล่าวว่า ประเทศไทยบริโภคน้ำมันวันละเกือบ 1 ล้านบาร์เรล ผลิตเองได้ไม่ถึง 200,000 บาร์เรล ต้องนำเข้าเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ และจะมีแหล่งน้ำมันสำเร็จรูปขนาดไหน ที่จะรองรับปริมาณมหาศาลขนาดนี้ หากวันใดต้นทางไม่ขายให้ โรงกลั่นที่มีอยู่ก็ปิดตัวลงหรือกำลังการผลิตลดลง จะกระทบต่อเสถียรภาพความมั่นคงทางพลังงานหรือไม่

 

แหล่งข่าวจากผู้เชี่ยวชาญวงการน้ำมัน กล่าวว่า ในขณะนี้ การค้าน้ำมันของไทยเป็นระบบเสรีอยู่แล้ว ผู้ค้ามาตรา7 สามารถนำเข้ามาจำหน่ายได้ตามปกติ แต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขของมาตรฐานน้ำมันตามกฏหมายของประเทศไทย โดยควบตามกฏระเบียบของกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ซึ่งปัจจุบัน มาตรฐานยูโร 4 จะปรับเป็นยูโร 5 ในวันที่ 1 ม.ค. 2567 ดังนั้น มาตรฐานที่สูงขึ้นก็จะทำให้ราคาแพงขึ้นด้วยเพราะต้นทุนการกลั่นจะสูงขึ้น 

ทั้งนี้ ปัจจุบันต้นทุนราคาน้ำมันขายปลีกของไทย สามารถแบ่งเป็น เนื้อน้ำมัน 40-60%, ภาษีน้ำมัน 30-40% กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 5-20% และค่าการตลาดน้ำมัน 10-18% ซึ่งค่าการตลาดน้ำมันของไทยมีการสำรวจต้นทุนทุก 5 ปี และพบว่าอัตราเหมาะสมเฉลี่ยของไทยอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร เนื่องจากมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาตลอด อาทิ จากทั้งค่าเช่าที่ดิน, ค่าจ้างเด็กปั๊ม,ค่าน้ำ, ค่าไฟ และคาดกันว่าค่าการตลาดภายหลังประเทศไทยใช้มาตรฐานน้ำมันใหม่ยูโร 5 จะเพิ่มขึ้นในปี 2567 

"การนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรีจริง ๆ ก็สามารถทำได้ แต่น้ำมันต้องมีคุณภาพตามที่ ธพ. กำหนด ก่อนนำมาจำหน่าย ซึ่งผู้ค้าน้ำมันในแต่ละสถานีบริการน้ำมันก็จะต้องนำน้ำมันมาผสมตามสูตรของตัวเองอีก ซึ่งตรงนี้ก็เป็นอีกประเด็นที่ต้องหารือ"

ขณะที่ แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน ระบุว่า หากมีการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรีได้จริง ในเรื่องของราคาก็จะแล้วแต่ต้นทุนที่นำเข้า 
 ซึ่งขณะนี้ ข้าราชการกระทรวงพลังงาน ต่างยังไม่สามารถให้คำตอบในเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน เพราะจะขอฟังในเรื่องของรายละเอียดและแนวคิดของ นายพีระพันธุ์ ก่อน