ธรรมนัส ลงตราด จี้ปราบสินค้าเกษตรเถื่อน แก้กฎหมายป้องชาวประมง
ธรรมนัส ลงพื้นที่ ตราด สั่งป้องปันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย อย่างจริงจัง พร้อม เร่งแก้กฎระเบียบประมง ราคากุ้งตกต่ำ
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยขณะลงพื้นที่จ.ตราด ว่า เนื่องจากตราด เป็นจังหวัดชายแดนสุดฝั่งทะเลตะวันออก มีอาณาเขตด้านชายแดนติดกับประเทศกัมพูชาทั้งทางบกและทางทะเล มีความยาว 330 กิโลเมตร โดยทางบกติดกับทางจังหวัดของประเทศกัมพูชา ได้แก่ จังหวัดพระตะบอง จังหวัดโพธิสัต และจังหวัดเกาะกง ซึ่งมีแนวชายแดนธรรมชาติติดทิวเขาบรรทัด เป็นเส้นแบ่งเขตแดนตลอดแนวมีความยาว 165 กิโลเมตร และมีแนวอาณาเขตทางทะเลมีความยาว 185 กิโลเมตร
ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงที่จะลักลอบสินค้าผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงให้ด่านกักกันสัตว์ และด่านตรวจประมง ให้ความเข้มงวดในการปราบปรามสินค้าลักลอบ
ทั้งนั้ได้รับฟังสรุปผลการดำเนินงานของด่านตรวจพืชท่าเรือคลองใหญ่ ด่านกักกันสัตว์ตราด ด่านตรวจประมงตราด ซึ่ง มีภารกิจหน้าที่และความรับผิดชอบในการตรวจสอบการนําเข้า-ส่งออกมาในประเทศ ให้บริการออกใบอนุญาต หนังสืออนุญาต ใบรับรอง และควบคุมความเสี่ยงการเกิดโรคระบาดพืช ปศุสัตว์ และประมง
ทั้งนี้ ด่านตรวจพืชท่าเรือคลองใหญ่ (ตรวจพืช) มีการนําเข้าสินค้าพืช 2 ชนิด ได้แก่ หวาย และไม้แปรรูป รวมปริมาณ 669.05 ตัน คิดเป็นมูลค่า 4,104,135.73 ล้านบาท และมีการส่งออกสินค้าพืช 3 ชนิด มีใบรับรองสุขอนามัยพืช จํานวน 1,579 ฉบับ คิดเป็นมูลค่า 2,136,000 ล้านบาท
ด่านตรวจประมงตราด (ตรวจประมง) มีการนําเข้าสัตว์น้ำ ปี 2566 รวมทั้งหมด 16,310.35 ตัน คิดเป็นมูลค่า 348.66 ล้านบาท สินค้าที่นำเข้ามากที่สุด ได้แก่ ปลากะตัก จํานวน 6,716.50 ตัน มูลค่า 78.81 ล้านบาท รองลงมา คือ ปลาเป็ด จํานวน 3,139 ตัน คิดเป็นมูลค่า 22.31 ล้านบาท โดยมีการส่งออกสัตว์น้ำ ปี 2566 รวมทั้งหมด จํานวน 9,438.55 ตัน คิดเป็นมูลค่า 469.31 ล้านบาท สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ปลาชนิดอื่น ๆ และหอยนางรม
ด่านกักกันสัตว์ตราด (ตรวจปศุสัตว์) มีสินค้าปศุสัตว์ส่งออก จํานวน 11 ชนิด ประกอบด้วย สุกร จํานวน 296 ตัว และสินค้าปศุสัตว์แปรรูปและอื่น ๆ จํานวน 260.31 ตัน คิดเป็น มูลค่า 48,469,339 ล้านบาท
ในขณะเดียวกันจะหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหมาดไทย ในการปรับปรุงถนนให้มีความสะดวกในการผ่านด่านชายแดน เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างไทยและกัมพูชาให้เพิ่มมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส ยังได้ ติดตามการดำเนินงาน ณ ท่าเทียบเรือกัลปังหา และพบปะเกษตรกรเพื่อรับฟังปัญหา และติดตามสถานการณ์ พร้อมแก้ไขปัญหาด้านการเกษตร
โดยจะเร่งแก้ไขปัญหาพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมีความเข้มงวดและเป็นอุปสรรคต่อการทำประมงในปัจจุบัน โดยชาวประมงเสนอให้มีแนวทางบรรเทาผลกระทบในช่วงการเปลี่ยนผ่านของกฎหมาย และจะช่วยดูราคากุ้งตกต่ำ ทั้งกุ้งแวนนาไม กุ้งกุลาดำ และกุ้งก้ามกราม ซึ่งมีปัจจัยมาจากโรคระบาดและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ขอให้มั่นใจว่าจะร่วมแก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวประมงทั้ง 22 จังหวัด ที่มีพื้นที่ติดทะเล
ทั้งนี้จ.ตราดเป็นพื้นที่ที่มีทรัพยากรสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งทำการประมงที่สำคัญ ทั้งประมงพื้นบ้าน และประมงพาณิชย์ รวมทั้งพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทั้งชายฝั่งและน้ำจืด ผลผลิตสัตว์น้ำของ จ.ตราด มีมากกว่า 82,779 ตัน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 5,599.80 ล้านบาท ผลผลิตจากการทำการประมง 55,643 ตัน มูลค่า 2,344.21 ล้านบาท ผลผลิตจากการเพาะเลี้ยง 27,136 ตัน มูลค่า 3,255.59 ล้านบาท
สำหรับทะเบียนเกษตรกร มีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (ทบ.1) 1,317 ราย แบ่งเป็น กุ้งทะเล 476 ราย หอยทะเล 346 ราย ปลาน้ำจืด 317 ราย ปลาทะเล 125 ราย จระเข้ 14ราย สัตว์น้ำสวยงาม 3 ราย และสัตว์อื่น ๆ 36 ราย ผลผลิตจากการเพาะเลี้ยง 27,136 ตัน มูลค่า 3,255.59 ล้านบาท ทะเบียนผู้ประกอบการด้านการประมง (ทบ.2) 539 ราย ทะเบียนผู้ทำอาชีพทำการประมง (ทบ.2) 3,334 ราย เรือประมงพื้นบ้านที่มีทะเบียนเรือไทย จำนวน 3,379 ลำ ได้แก่ อวนติดตา อวนครอบหมึก อวนลอยปลากระบอก อวนจมปูม้า อวนลอยปลาทู และเรือประมงพาณิชย์ที่มีทะเบียนเรือไทย จำนวน 588 ลำ ได้แก่ อวนครอบปลากะตัก อวนลากแผ่นตะเฆ่ อวนลากคานถ่าง