'วิทยา ยาม่วง' กลับเข้ารับราชการ นั่งรองปลัดคมนาคม
ครม.เห็นชอบตั้ง "วิทยา ยาม่วง" กลับเข้ารับราชการนั่งเก้าอี้รองปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมแต่งตั้ง "กริชเพชร ชัยช่วย" นั่งอธิบดีกรมเจ้าท่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ต.ค.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เสนอให้ นายวิทยา ยาม่วง กลับเข้ารับราชการในตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงคมนาคมสำนักงาน และแต่งตั้งนายกริชเพชร ชัยช่วย ผู้ตรวจราชการกระทรวง ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเจ้าท่า ที่ว่างอยู่ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป
สำหรับนายวิทยา ยาม่วง เป็นอดีตอธิบดีกรมเจ้าท่า โดยได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการ เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2564 สมัยที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยหนังสือลาออกที่ส่งถึงปลัดกระทรวงคมนาคมในครั้งนั้น ได้ระบุถึงสาเหตุที่ขอลาออกว่า มีปัญหาทางด้านสุขภาพ และต้องการไปดูแลครอบครัว ซึ่งการลาออกมีผลในวันที่ 1 พ.ย. 2564 ทั้งนี้ ปัจจุบันนายวิทยา อายุ 58 ปี และจะเกษียณอายุราชการในปี 2568
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า การลาออกจากราชการของนายวิทยาในสมัยที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในเอกสารลาออก ระบุเหตุผลด้านสุขภาพ เพราะในขณะนั้นมีปัญหาทางช่องท้อง เนื่องจากเคยทำการรักษานิ่วในถุงน้ำดีมาก่อน ซึ่งการตัดสินใจลาออกเพื่อรักษาสุชภาพและใช้เวลาอยู่กับครอบครัว นับเป็นการลาออกจากราชการขณะที่อายุราชการยังเหลืออยู่ถึง 4 - 5 ปี โดยหนังสือลาออกลงวันที่ 1 ต.ค.2564 และมีผลในวันที่ 1 พ.ย.2564
แต่แม้เหตุผลด้านสุขภาพจะมีน้ำหนัก ในขณะนั้นก็มีกระแสข่าวว่าสาเหตุอีกแง่มุมหนึ่งที่ทำให้วิทยาตัดสินใจลาออกจากราชการนั่นคือ "แรงกดดันในการทำงาน" เนื่องจากช่วงที่ผ่านมานโยบายของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ มีการเร่งรัดติดตามงานตามนโยบายเพื่อนำไปสู่การปฎิบัติ ของกระทรวงคมนาคมในทุกหน่วยงานในสังกัดอย่างเข้มงวด อีกทั้งยังเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้ได้ตามเป้าหมาย และมีกำหนดประเมินผลปฏิบัติงานของข้าราชการทุกๆ 3 เดือน
ทั้งนี้ที่ผ่านมาการทำงานของกรมเจ้าท่ายังมีการดำเนินงานล่าช้าในเรื่องของการแก้ไขกฎระเบียบ ข้อปฎิบัติ และกฎหมาย รวมทั้งขั้นตอนการออกใบอนุญาติ ต่อใบอนุญาติ เรือ ท่าเรือ มีการใช้ขั้นตอนเป็นระยะเวลายาวนานกว่าที่มีการขีดเส้นให้มีการทำงานทำให้เป็นแรงกดดันในการทำงานของผู้บริหารกรมฯ