ดาวเทียมตรวจสอบปลูกข้าว 'เปียกสลับแห้ง' โมเดลร่วมมือ WAVE BCG-ไทยคม
WAVE BCG ผนึก “ไทยคม” นำศักยภาพเทคโนโลยีดาวเทียม หนุนบริหารจัดการตรวจสอบการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้งในนาข้าว
นายเจมส์ แอนดริว มอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด หรือ WAVE BCG ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัทเวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) หรือ WAVE และนายถิรพงศ์ คำเรืองฤทธิ์ กรรมการบริษัท ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2566 โดยนายปฐมภพ สุวรรณศิริ และนายวรวรรฒน์ วิไลวงษ์ ผู้รับมอบอำนาจ กระทำการแทนบริษัท ให้เกียรติเข้าร่วมลงนาม
นายเจมส์ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อที่จะสนับสนุน ส่งเสริม และประสานความร่วมมือด้านวิชาการ ระหว่างหน่วยงานทั้งสอง ในการวิจัยพัฒนาทั้งเทคโนโลยี การบริการ วิชาการ และบุคลากร เพื่อเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถในการบริหารจัดการ ด้านเกษตรกรรมและสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการตรวจสอบแปลงข้าวแบบเปียกสลับแห้ง เพื่อติดตาม ตรวจสอบ และ ประเมินคาร์บอนเครดิตสำหรับโครงการปลูกข้าว
“การลงนามครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ตระหนักถึงความสำคัญและมีความประสงค์จะร่วมมือกัน โดยไทยคมนำความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีดาวเทียม และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมาใช้ในการติดตามและตรวจสอบวิธีการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้งในนาข้าว โดยนำระบบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี"
รวมถึงข้อมูลจำนวนมาก (Big Data) มาใช้งาน เพื่อมาประมวลผลโดยใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics System) จะนำส่งข้อมูลที่ได้จากระบบวิเคราะห์และแสดงผลข้อมูล เพื่อการใช้งานจริงในขั้นต่อไป เพื่อเป็นแนวทางการนำระบบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการติดตาม และตรวจสอบวิธีการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้งในนาข้าว (Scientific and technology Solution for Alternate wetting and drying หรือ AWD)
นายเจมส์ กล่าวอีกว่า บริษัท เวฟ บีซีจี เป็นผู้เชี่ยวชาญ ให้บริการการซื้อขายคาร์บอนเครดิต และให้บริการ Climate solution แบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษาทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย พัฒนาโครงการ รวมไปถึงจัดหาคาร์บอนเครดิต ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนให้ ภาคส่วนต่างๆ ดำเนินกิจกรรมด้วยความใส่ใจเพื่อลดผลกระทบต่อโลกร้อน
นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม กล่าวว่า ไทยคมมีพันธกิจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการนำเทคโนโลยีอวกาศมาต่อยอดเป็นโซลูชัน เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนประเทศชาติ อีกทั้งยังมีกลยุทธ์ในด้าน ESG ที่คำนึงถึงความยั่งยืนให้เกิดขึ้นในทุกภาคส่วน
ดังนั้น การร่วมมือกับ เวฟ บีซีจี ในครั้งนี้ จึงเป็นการตอกย้ำพันธกิจของเรา ในการนำความเชี่ยวชาญในด้านดาวเทียมสำรวจระยะไกล และข้อมูลภูมิสารสนเทศมาวิเคราะห์ร่วมกับเทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning (ML) เพื่อส่งเสริมด้านการเกษตร และสิ่งแวดล้อมให้กับโครงการนี้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นต่อไป