'การลงทุนในธรรมชาติ' สมเหตุสมผลด้านระบบนิเวศและเศรษฐกิจ

กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) COP28 ในดูไบเป็นการเรียกร้องที่ชัดเจนต่อประชาคมโลก โดยให้ธรรมชาติเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ ไม่เช่นนั้นอาจเสี่ยงที่จะขัดขวางความพยายามสำคัญที่กำลังดำเนินอยู่เพื่อจำกัดภาวะโลกร้อนให้อยู่ที่ 1.5 องศา ความจำเป็นในการดำเนินการไม่เคยมีความเร่งด่วนมากเท่านี้มาก่อน

ธรรมชาติความจำเป็นในการลงทุน

ด้วยเงินเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่มุ่งมั่นในโครงการป่าไม้ มหาสมุทร และระบบนิเวศชายฝั่ง และข้อตกลงที่เป็นเอกฉันท์ว่าทุกประเทศควรหยุดและฟื้นฟูการตัดไม้ทำลายป่าและความเสื่อมโทรมของป่าภายในปี 2573 บทบาทที่สำคัญของธรรมชาติในการจัดการกับภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างมั่นคงแล้ว

แล้วมันหมายความว่าอย่างไรสำหรับนักลงทุน? แม้ว่ากฎระเบียบด้านกฎระเบียบจะให้ความสำคัญกับความเสี่ยง ผลกระทบ และการพึ่งพาธรรมชาติมากขึ้น แต่เงินก็ยังคงไหลไปในทิศทางที่ผิด การเงินส่วนบุคคลอย่างน้อย 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐนำไปใช้ในกิจกรรมที่มีผลกระทบด้านลบต่อธรรมชาติในปี 2022 ซึ่งมากกว่าจำนวนเงินในปัจจุบันที่จ่ายให้กับโซลูชั่นจากธรรมชาติ (NbS) ถึง 140 เท่า

เนื่องจาก NbS มีศักยภาพในการจัดหาความต้องการบรรเทาผลกระทบได้ประมาณหนึ่งในสาม และสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการปรับตัวได้ 104 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 สภาพที่เป็นอยู่นี้แทบไม่สมเหตุสมผลเลยต่อระบบนิเวศหรือเศรษฐกิจ

ความเสื่อมโทรมของมหาสมุทรและระบบนิเวศทางทะเลมีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกประมาณ 8.4 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 15 ปีข้างหน้า และมหาสมุทรถือเป็นเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ได้รับทุนสนับสนุนมากที่สุด

นอกจากนี้ นักลงทุนที่ไม่ได้เตรียมตัวมาไม่ดียังเสี่ยงที่จะถูกมองข้ามจากความทะเยอทะยานและก้าวของนโยบายใหม่ๆ ที่จะหยุดยั้งและฟื้นฟูการสูญเสียธรรมชาติ ซึ่งจำนวนนี้เพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

หลัก 3 ข้อ ในการระดมการเงินเพื่อธรรมชาติ

NbS ที่ลงทุนได้ รวมถึงเกษตรกรรมแบบยั่งยืน ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำกำไรและปรับขนาดได้ในปัจจุบัน และมีศักยภาพที่จะสร้างงานมากกว่า 390 ล้านตำแหน่งภายในปี 2573

การแก้ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าเป็นองค์ประกอบหลักของแผนคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ที่น่าเชื่อถือ และธุรกิจและนักลงทุนก็มีความพร้อมมากขึ้นกว่าเดิมในการให้ความสำคัญกับธรรมชาติเป็นแกนหลักของกระบวนการตัดสินใจ ต้องขอบคุณเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เช่น Kunming-Montreal Global Biodiversity Framework, Taskforce เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ (TNFD) เครือข่ายเป้าหมายตามวิทยาศาสตร์ โครงการริเริ่มการดำเนินการตัดไม้ทำลายป่าในภาคการเงิน และโครงการริเริ่ม Nature Action 100

 

1.หยุดและย้อนกลับการตัดไม้ทำลายป่า

ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ได้หากปราศจากการดำเนินการกับการตัดไม้ทำลายป่า แต่บริษัทหลักๆ และสถาบันการเงินหลายแห่งยังคงเพิกเฉยต่อบทบาทของตนในการทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น สิ่งนี้จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง และผู้นำในภาคส่วนนี้กำลังแสดงให้เห็นว่า โครงการริเริ่มต่างๆ เช่น Tropical Forest Alliance มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้ภาคการเงินในประเด็นที่สำคัญนี้

ด้วยโครงการริเริ่มการดำเนินการตัดไม้ทำลายป่าในภาคการเงิน สถาบันการเงินชั้นนำ 35 แห่งที่มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) มากกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์ มุ่งมั่นที่จะขจัดความเสี่ยงในการตัดไม้ทำลายป่าที่ขับเคลื่อนด้วยสินค้าเกษตรในพอร์ตการลงทุนและให้กู้ยืม และเพิ่มการลงทุนในโซลูชั่นที่อิงกับธรรมชาติภายในปี 2568 

นอกจากนี้ Investor Policy Dialogue on Deforestation ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มการมีส่วนร่วมของอธิปไตยที่นำโดยนักลงทุน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงิน 81 แห่งจาก 21 ประเทศซึ่งมี AUM ประมาณ 10.5 ล้านล้านดอลลาร์ มีเป้าหมายที่จะหยุดยั้งการตัดไม้ทำลายป่าในชีวนิเวศที่เปราะบางที่สุดในโลก นั่นคือ Glasgow Financial Alliance for Net Zero (GFANZ)

เรียกร้องให้สมาชิกฝังการตัดไม้ทำลายป่าไว้ในการวางแผนการเปลี่ยนผ่าน และคำแนะนำของแผนปฏิบัติการวาระนักลงทุนเน้นย้ำว่าการดำเนินการของนักลงทุนจะสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพและความมั่นคงทางอาหารไปพร้อมๆ กัน ขณะเดียวกันก็ลดความเสี่ยงเมื่อเผชิญกับกฎระเบียบในอนาคต

2.สนับสนุน 'ธรรมชาติเชิงบวกต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ'

นับบตั้งแต่เปิดตัวที่การประชุม COP28 สถาบันการเงินและธุรกิจต่างๆ กว่า 150 แห่งต่างตอบสนองต่อคำกระตุ้นการตัดสินใจนี้และรวมเอาธรรมชาติเข้ากับแผนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การนำเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์สำหรับธรรมชาติและสภาพภูมิอากาศ (SBT FLAG) มาใช้ และมุ่งมั่นที่จะเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติผ่าน TNFD 

คำกระตุ้นการตัดสินใจนี้ยังกล่าวถึงการเงินที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่เพียงพอ และไม่ยุติธรรมสำหรับธรรมชาติในปัจจุบันในประเทศที่เปราะบางซึ่งเผชิญกับสภาพภูมิอากาศ 3 ประการ ความหลากหลายทางชีวภาพ และวิกฤตหนี้

หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการจัดหาเงินทุนอธิปไตยที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนเพื่อธรรมชาติและสภาพภูมิอากาศมีเป้าหมายที่จะแก้ไขปัญหานี้โดยการขยายขนาดเครื่องมือทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับหนี้ ซึ่งรวมถึงหนี้สำหรับการแปลงสภาพธรรมชาติ เช่น หนี้ในเบลีซ เอกวาดอร์ และกาบอง และพันธบัตรรัฐบาลที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนในอุรุกวัยและชิลี

3.เพิ่มการลงทุนในโซลูชั่นที่อิงธรรมชาติ

วิธีแก้ปัญหาจากธรรมชาติเป็นเครื่องมือที่คุ้มค่าที่สุดในการช่วยให้ชุมชนเปราะบางปรับตัวเข้ากับความเป็นจริงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตัวอย่างเช่น ป่าชายเลน หญ้าทะเล และปะการังให้การปกป้องมนุษย์และสัตว์ป่าจากทั้งสาเหตุและผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

COP28 เน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของพวกเขาในสมการสภาพภูมิอากาศด้วยการเปิดตัวแผนงานการเงินป่าชายเลน ความก้าวหน้าของป่าชายเลนกำลังระดมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอยู่แล้ว ทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายในการอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ 15 ล้านเฮกตาร์ภายในปี 2573 และบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ยั่งยืนถึง 4 พันล้านดอลลาร์

โอกาสทางเศรษฐกิจของชีวิต

ในขณะที่ประเทศต่างๆ พัฒนาแผนสภาพภูมิอากาศระดับชาติที่ได้รับการปรับปรุงและลงทุนได้ การมีส่วนร่วมที่กำหนดโดยประเทศ และแผนความหลากหลายทางชีวภาพ (ยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการด้านความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติ) พวกเขามีโอกาสที่จะแสดงความชัดเจน ลดความไม่แน่นอน และดึงดูดการลงทุนมายังประเทศของตน

ในทำนองเดียวกัน นักลงทุนที่ยินดีเผชิญกับความเสี่ยงทางธรรมชาติและสภาพภูมิอากาศโดยตรงจะได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอนาคตอันใกล้นี้ โดยมีโอกาสสูงถึง 10 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี

ดังนั้นจึงต้องขอการสนับสนุนจากสถาบันการเงินภาครัฐและเอกชนเพื่อสร้างความมุ่งมั่นของ COP28 รับรองผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งด้านการเงินในงานความหลากหลายทางชีวภาพ COP16 ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งชุมชน Champions for Nature จะเผยแพร่บทสรุปข้อมูลเชิงลึกในหัวข้อที่เลือก เช่น ธรรมชาติ เงินทุน และส่งเสริมการเจรจาเกี่ยวกับความสอดคล้องของนโยบายกับธรรมชาติที่เป็นหัวใจสำคัญของสภาพภูมิอากาศที่ทะเยอทะยานและวาระการพัฒนาในการนำไปสู่สภาพภูมิอากาศ COP29