AOT ผลประกอบการ 1Q66: พลิกเป็นกำไร (13 ก.พ. 2566)
ผลการดำเนินงานยังเป็นบวก แม้ว่ากำไรสุทธิจะน้อยกว่าที่คาดไว้
ผลการดำเนินงานของ AOT ใน 1Q66 ยังแสดงสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยพลิกเป็นกำไรสุทธิได้เป็นไตรมาสแรก ซึ่งเป็นไปตามที่เราและตลาดคาดเอาไว้ (แม้ว่าออกมาน้อยกว่าที่คาดไว้ที่ 956 ล้านบาท และ 504 ล้านบาท ตามลำดับ) โดยมีกำไรสุทธิใน 1Q66 เท่ากับ 343 ล้านบาท (ดีขึ้นอย่างมากจากขาดทุนสุทธิ 4.27 และ 1.33 พันล้านบาทใน 1Q65 และ 4Q65 ตามลำดับ) ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานโดยรวมดีขึ้นจากการที่ประเทศไทยกลับมาเปิดประเทศตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2565 ซึ่งสูงถึงเกือบ 11 ล้านคน (+1,176.7% YoY, +47.4% QoQ) และจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศสูงถึง 66,829 เที่ยว (+186.6% YoY, +32.5% QoQ) ทั้งนี้ ใน 1Q66 รายได้ของ AOT อยู่ที่ 8.82 พันล้านบาท (+279.1%YoY, +34.7% QoQ) ในขณะที่ EBIT margin พลิกมาเป็นบวกที่ 13.6% จาก -224.0% ใน 1Q65 และ - 7.4% ใน 4Q65 โดยรายได้ของบริษัทใน 1Q66 แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวกับการบิน 49.3% และไม่เกี่ยวกับการบิน 50.7% จากใน 1Q6 ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากการบิน 536.6% และไม่เกี่ยวกับการบิน 63.4% ซึ่งสะท้อนว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับการบินดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังวิกฤติ COVID-19
ยังคงมองบวกกับแนวโน้มกำไรในปี FY66F
เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มผลการดำเนินงานของ AOT จาก FY66 ตุลาคม)2565-กันยายน 2566) เป็นต้นไป เพราะการที่ประเทศไทยกลับมาเปิดประเทศเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตในอีกสองสามปีข้างหน้า เราคิดว่าการเติบโตอย่างแข็งแกร่งจะมาจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติและมีผู้โดยสารเที่ยวบินในประเทศเพิ่มขึ้นจากการที่สถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น ทั้งนี้ KGI คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไว้ที่ 28 ล้านคน ขณะที่สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยกล่าวในงานสัมมนาของ KGI เมื่อวันศุกร์ว่า มีแผนที่จะปรับตัวเลขขึ้นเป็น 30 ล้านคนในปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ เราคาด
ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น 1 ล้านคน จะส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิของ AOT ประมาณ 2.7% เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของ AOT ในอีกสองสามปีข้างหน้า เพราะเราคาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทจะกลับไปอยู่ระดับสูงกว่าก่อนที่ COVID ระบาดในปี FY67F
คงประมาณการกำไรปี FY66-67F เอาไว้เท่าเดิม
เราคาดว่ากำไรปี FY66F จะอยู่ที่ 1.39 หมื่นล้านบาท (จากขาดทุนสุทธิ 1.63 หมื่นล้านบาท และ 1.11 หมื่นล้านบาทในปี FY64 และ FY65) ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 2H66 เพราะจะสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับการบินและไม่เกี่ยวกับการบินในเดือนมีนาคม
Valuation & action
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี FY66F ที่ 8บาท 6 (ใช้ WACC ที่ 9% และ TG ที่ 3%)
Risks
COVID-19 กลับมาระบาดอีกระลอก, เศรษฐกิจถดถอย และ ความไม่สงบทางการเมืองของไทย