วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี MEGA - 3Q23F: กำไรจะต่ำตามฤดูกาล

เนื่องจาก 1) ในส่วนของธุรกิจสินค้าแบรนด์ ธุรกิจวิตามินแผ่วลงไปหลังจากที่ COVID คลี่คลายไป และ 2) ในส่วนของธุรกิจจัดจำหน่าย บริษัทเสียลูกค้ารายหนึ่งในเมียนมาร์ไปตั้งแต่ 1Q23 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแนวโน้มของทั้งรายได้ และ กำไรยังน่าจะเป็นไปตามคาด เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ และ ประเมินราคเป้าหมายที่ 54 บาท

 

คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง 0.4ppt yoy เนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้น yoy

เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง 0.4ppt เหลือ 45.3% ใน 3Q23F เนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้น yoy (เป็น 35.12 บาท/USD จาก 36.41 บาท/USD ใน 3Q22) ทั้งนี้ เนื่องจากประมาณ 80% ของรายได้ MEGA อยู่ในสกุล USD ดังนั้น แนวโน้มค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับ USD จึงอาจจะส่งผลกับกำไรของ MEGA ได้ ซึ่งจากแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินบาทในปัจจุบัน ทำให้เราเชื่อว่า MEGA เป็นหนึ่งในบริษัทที่จะได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินบาท โดยเราประเมินว่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงทุก ๆ 1% จะทำให้กำไรจากธุรกิจหลักของ MEGA เพิ่มขึ้น 0.9%

 

 

 

คาดว่ารายได้จะเร่งตัวขึ้นใน FY24F

เราคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 6.4% ในปี FY24F โดยคาดว่าธุรกิจสินค้าแบรนด์จะโต 7% และ ธุรกิจการจัดจำหน่ายจะโต 6% เราคาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายในปี FY24F จะเร่งตัวขึ้นจาก 2.9% ในปี FY23F เนื่องจาก 1) ยอดขายวิตามินน่าจะฟื้นตัวขึ้น จากที่ลดลงหลังสถานการณ์ COVID คลี่คลายลงไปในปี FY23F และ 3) สถานการณ์ในเมียนมาร์ (ซึ่งเป็นตลาดหลักของธุรกิจการจัดจำหน่าย) น่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น และทำให้ธุรกิจการจัดจำหน่ายเติบโตได้

 

ความเสี่ยงหลักอยู่ที่ภาวะความผันผวนในตลาดเกิดใหม่ (emerging markets)

ราคาเป้าหมายของเราที่ 54 บาท อิงจาก P/E ปี FY24F ที่ 18.4x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 19.6x เล็กน้อย โดยราคาหุ้น MEGA ในปัจจุบันซื้อขายที่ 14.6x FY24F P/E เรามองว่า MEGA เป็นบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็ว จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของเวชภัณฑ์ โดยได้แรงสนับสนุนจาก brand franchise ที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม บริษัทดำเนินกิจการในตลาดเกิดใหม่หลายตลาด อย่างเช่น เมียนมาร์ ซึ่งภาวะเศรษฐกิจสังคมยังมีความผันผวนสูง