วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Transportation Sector เข้าสู่ไตรมาสที่ไม่น่าตื่นเต้นใน 2Q

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Transportation Sector เข้าสู่ไตรมาสที่ไม่น่าตื่นเต้นใน 2Q

ถึงแม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง YoY ในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน (+41.5% YoY, +58.6% YoY, +31.4% YoY และ +26.4% YoY ตามลำดับ)

แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับลดลง 7.6% MoM ในเดือนเมษายน สะท้อนถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่แผ่วลงตามปกติเพราะปัจจัยฤดูกาล ดังนั้น เราจึงมองว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะน่าตื่นเต้นน้อยลงใน 2Q67F อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าจะเห็นการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้
โดยเราคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นเป็น 35 ล้านคน (+24.3% YoY) ในปีนี้ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 38 ล้านคน (+8.3% YoY) ในปี 2568F ทั้งนี้ ในงวด 4M67 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยอยู่ที่ 12.1 ล้านคน (+39.2% YoY) คิดเป็น 34.6% ของประมาณการเต็มปีของเรา

แนวโน้มยังคงเป็นบวกในระยะยาว

ถึงแม้ว่าการท่องเที่ยวของไทยจะยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2567F แต่ตามปกติแล้วไตรมาสที่สองจะเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวชะลอตัวลง หลังจากผ่านช่วงที่แข็งแกร่งในไตรมาสหนึ่งไปแล้ว ดังนั้น ธุรกิจท่องเที่ยวน่าจะแผ่วลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการท่องเที่ยวยังคงเป็นบวก YoY เหมือนเดิมเพราะจำนวนนักท่องเที่ยว และจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น YoY ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการของทั้งผู้ประกอบการสนามบิน และสายการบินในช่วงดังกล่าวดีขึ้น YoY ทั้งคู่

คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มขึ้นจากนโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาล

ในปัจจุบัน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยยังต่ำกว่าระดับก่อน COVID อยู่ ทั้งนี้ ในเดือนเมษายน 2567 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 0.59 ล้านคน ต่ำกว่าเมื่อเดือนเมษายน 2562 ที่ระดับ 0.89 ล้านคนอยู่ 33.8% เราคาดว่าการที่รัฐบาลไทยและจีนอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

 

อุตสาหกรรมสายการบินทั่วโลกกลับสู่ระดับของเมื่อปี 2562 แล้ว

จากรายงานของ IATA ในเดือนมิถุนายน 2567 ปริมาณการเดินทางไม่ได้เป็นเพียงวิธีเดียวที่ใช้ในการพิจารณากิจกรรมในอุตสาหกรรมสายการบิน แต่ความเชื่อมโยงยังมีส่วนช่วยเพิ่มมิติในเชิงพื้นฐานให้กับการวิเคราะห์ด้วย ทั้งนี้ การขนส่งทางอากาศมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจโลก เพราะมันช่วยเชื่อมโยงผู้คน มหานคร และประเทศต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งความเชื่อมโยงนี้จะทำให้เกิดการหลั่งไหล อย่างไม่ขาดตอนของสินค้า ผู้คน และแนวคิด ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการสนับสนุนวัฏจักรธุรกิจโลก

คาดว่ากำไรของ AAV และ AOT จะเพิ่มขึ้น YoY ในปี 2567F

เราคาดว่าผลประกอบการของ AAV จะได้แรงสนับสนุนจาก i) จำนวนผู้โดยสารที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง YoY ใน 2Q67F ii) ต้นทุนเชื้อเพลิงอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ และ iii) ค่าตั๋วเฉลี่ยอยู่เกณฑ์สูง นอกจากนี้ เรายังคาดว่ากำไรของ AOT จะยังคงแข็งแกร่งขึ้น YoY จากทั้งธุรกิจที่เกี่ยวกับการบิน และไม่เกี่ยวกับการบิน ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มขึ้นและจำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ แนวโน้มที่แข็งแกร่งขึ้นของธุรกิจที่เกี่ยวกับการบินยังจะส่งผลให้รายได้จากธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับการบิน (การเช่า, บริการ และ สัมปทาน) เพิ่มขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นด้วย

Valuation & Action

เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มนี้ที่ Neutral โดยยังคงเลือก AOT และ AAV เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มนี้ เราแนะนำ
ซื้อทั้ง AOT และ AAV โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 79.00 บาท และ 3.20 บาทตามลำดับ

Risks

COVID-19 ระบาด และเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Transportation Sector เข้าสู่ไตรมาสที่ไม่น่าตื่นเต้นใน 2Q

 

 

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Transportation Sector เข้าสู่ไตรมาสที่ไม่น่าตื่นเต้นใน 2Q

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ Transportation Sector เข้าสู่ไตรมาสที่ไม่น่าตื่นเต้นใน 2Q