Daily SET50 Index Futures : บล.เคจีไอฯ แกว่งตัว นักลงทุนจับตาประชุมเฟดในคืนวันพุธ

Daily SET50 Index Futures : บล.เคจีไอฯ แกว่งตัว นักลงทุนจับตาประชุมเฟดในคืนวันพุธ

กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน - กลยุทธ์ระยะสั้น Open Long 897, Take Profit 902/910, Stop Loss 892 เปิด Long สัญญา S50U24 ที่แนวรับ 897

Daily SET50 Index Futures : บล.เคจีไอฯ แกว่งตัว นักลงทุนจับตาประชุมเฟดในคืนวันพุธ

แนวโน้มระยะกลาง

ระยะกลางคาด S50U24 แกว่งตัวขึ้น ระยะสั้นเป็นบวกหลังจากยืนได้เหนือแนวรับ 885 ประเมินแนวรับ 893/885/878/867 และแนวต้าน 903/912/920/930 หากยืนได้เหนือ 893 อาจแกว่งตัวขึ้นไปแนวต้านที่ 903/912 หากยืนไม่ได้เหนือ 893 อาจแกว่งตัวลงไปแนวรับ 885/878

กลยุทธ์ระยะกลาง (สัปดาห์)

แนะนำเปิด Long สัญญา S50U24 ที่ 893 และปิดสถานะที่แนวต้าน 903/912 โดยให้จุด Stop loss ที่ 888

แนวโน้ม SET50 ฟิวเจอร์สระยะสั้น (ระหว่างวัน)

ศุกร์ที่ผ่านมา S50U24 แกว่งตัวขึ้น โดยเปิดบวกทันทีที่ 902.9 จากนั้นเด้งฟื้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 905.4 สลับชะลอลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 897.3 และมาปิดที่ 899.7 โดย S50U24 บวกแรงกว่าดัชนีส่งผลให้ Basis ระหว่าง S50U24 และ SET50 สู่ระดับ -0.11จุด

ประเมินสัญญา S50U24 อาจแกว่งตัว หากยืนได้เหนือ 897 อาจสลับเด้งขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไป 902/910

กลยุทธ์ระยะสั้น(ระหว่างวัน)**

แนะนำเปิด Long สัญญา S50U24 ที่แนวรับ 897 และปิดสถานะที่แนวต้าน 902/910 โดยให้จุด Stop loss ที่ 892

สำหรับคนที่ได้เปิด Long สัญญา S50U24 ที่ 897.3 เมื่อศุกร์ที่ผ่านมา แนะนำปิดสถานะที่แนวต้าน 902/910 โดยให้จุด Stop loss ที่ 892

Daily SET50 Index Futures : บล.เคจีไอฯ แกว่งตัว นักลงทุนจับตาประชุมเฟดในคืนวันพุธ

 

 

 

ปัจจัยสำคัญ

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ SET50

ศุกร์ที่ผ่านมาดาวโจนส์ปิดบวก 297 จุด (+0.72%) ปิดที่ 41,393 จุด จากนักลงทุนที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% ทั้งนี้ Fed Watch Tool เพิ่มน้ำหนักราว 59% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% ในเดือนก.ย. จากวันก่อนหน้าที่ 50% และลดน้ำหนักราว 41% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนก.ย. จากวันก่อนหน้าที่ 50% นอกจากนี้มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 69.0 สูงกว่าตลาดคาด 68.3 และสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.

ด้านทิศทางราคาน้ำมัน WTI เดือนต.ค.ปิดลบ 0.32 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล (-0.5%) มาอยู่ที่ 68.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกสหรัฐเริ่มกลับมาผลิตได้อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ต้องหยุดการผลิตบางส่วนจากผลกระทบของพายุเฮอริเคนฟรานซีน รวมทั้งรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซสหรัฐประจำสัปดาห์เพิ่มขึ้น 8 แท่น สู่ระดับ 590 แท่น ทั้งนี้เป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ 15 ก.ย. 2023 ถือเป็นปัจจัยลบต่อทิศทางราคาน้ำมัน

ด้านทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ/บาทแข็งค่าขึ้น ล่าสุดมาอยู่ที่ 33.21 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ปัจจัยที่ให้ติดตามในระยะสั้น

คืนพรุ่งนี้ติดตามยอดค้าปลีกสหรัฐเดือนส.ค. ทั้งนี้ตลาดคาด -0.2%MoM นอกจากนี้ปัจจัยสำคัญที่ให้ติดตาม คือผลการประชุมเฟดในวันที่ 18 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ Fed Watch Tool เพิ่มน้ำหนักที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ 1.25% ที่ 43.6% จากวันก่อนที่ 41.3% และเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ 1.0% ที่ 30% ลดลงจากวันก่อนที่ 33%