’หุ้นไทย’ ร่วงต่ำ 1,500 จุด แพนิกบอนด์ยิลด์พุ่งแรง กังวลแผนกระตุ้นศก.รัฐ
“ตลาดหุ้นไทย” วันนี้ (26 ก.ย. 66) ปิดตลาดเย็นหลุด 1,500 จุด อยู่ที่ 1,494.02 จุด ลดลง 13.34 จุด หรือ 0.88% โบรก ชี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะยาว ปรับสูงขึ้นเร็ว หวั่นปีหน้ารัฐบาลออกพันธบัตรมากเกิน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ แนะลงทุนหุ้นกลุ่มส่งออกอาหาร และพลังงานต้นน้ำ
ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทยวันนี้” วันนี้ (26 ก.ย.) ปิดตลาดอยู่ที่ 1,494.02 จุด ลดลง 13.34 จุด หรือ 0.88% ซึ่งดัชนีฯ ทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,514.90 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,494.02 จุด มูลค่าซื้อขาย 55,609.45 ล้านบาท
หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
- PTTEP มูลค่า 3,023.45 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.20%
- KBANK มูลค่า 2,676.04 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 123.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.99%
- SAV มูลค่า 2,261.58 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 15.30 บาท ลดลง 3.70 บาท หรือ 19.47%
- SCB มูลค่า 2,250.67 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 102.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.45%
- BDMS มูลค่า 2,022.14 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 27.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.87%
กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน สายงานวิจัย บล.ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผย “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ตลาดหุ้นปรับตัวร่วงลงมาเกิดจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของไทย 10 ปีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยราว ๆ ประมาณ 50 จุด โดยมีความกังวลต่อการกู้ของภาครัฐทั้งของเดิมที่มีอยู่แล้ว และของใหม่ที่จะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ จึงคาดว่าจะมีการออกพันธบัตรจำนวนมากในปีหน้า
ส่วนกรณีนโยบายการพักหนี้เกษตรกร ครม.เพิ่งอนุมัติออกมา ทำให้มีผลกระทบต่อไฟแนนซ์ ที่ในอนาคตอาจจะมีการก่อหนี้ จำนวนทะเบียนอาจจะลดน้อยลง รวมถึงกลุ่มธนาคาร แต่อย่างไรก็ตามยังเป็นในเชิงของเซนติเมน
แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุนในช่วงนี้หันมาลงทุนในหุ้นกลุ่มส่งออกอาหารที่ผลงานดีกว่า โดยเฉพาะส่งออกอาหารเช่น ITC TU AI และ ASIAN ส่วนอีกกลุ่มคือ พลังงานที่เป็นต้นน้ำ เช่น PTTEP เนื่องจากว่าน้ำมันดิบเป็นขาขึ้น จากการที่รัสเซียแบรนด์ส่งออก ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีนดีกว่าคาด ซึ่งถือว่ากำลังปรับตัวค่อย ๆ ดีขึ้น