‘หุ้นจีน’ เปิดตลาดพุ่ง 11% จับตา ‘ขาขึ้น’ หลังมาตรการอัดเศรษฐกิจรอบใหม่
‘หุ้นจีน’ เปิดตลาดพุ่ง 11% หลังหยุดยาว Golden Week จับตา ‘ขาขึ้น’ หลังแถลงมาตรการอัดเศรษฐกิจรอบใหม่ แบงก์เพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นจีน ดันตลาดคึก 'โบรกเกอร์' ทำงานตลอดวันหยุดยาว ตั้งรับนักลงทุนแห่เปิดบัญชีสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานความเคลื่อนไหว "ตลาดหุ้นจีน" วันนี้(8 ต.ค.) เปิดตลาดปรับตัวขึ้น 11% ทำให้จีนกลายเป็นจุดสนใจของนักลงทุนทั่วโลกในขณะนี้ จากการแถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในเวลา 10.00 น. วันนี้
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายชุดก่อนวันหยุดยาว Golden Week ส่งผลให้ดัชนีหุ้นจีนพุ่งสูงขึ้นถึง 30%
มาร์ก โมเบียส จาก Mobius Emerging Opportunities Fund กล่าวว่า ตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่อไปได้ หากรัฐบาลยังคงเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ พร้อมระบุว่า แนวโน้มขาลงของตลาดหุ้นจีนได้สิ้นสุดลงแล้ว และเราคาดการณ์ว่าตลาดจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
แห่เปิดบัญชีมากสุดเป็นประวัติการณ์
หลังจากปิดทำการเนื่องจากวันหยุดยาว บริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ต่างให้ความสนใจกับกระแสตอบรับของตลาดหุ้นต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจีนได้ประกาศออกมา ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ตามรายงานของ CCTV สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน เผยว่าบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในจีนกำลังเร่งมือทำงานอย่างหนักตลอดช่วงวันหยุดยาว เนื่องจากมีผู้สนใจเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นจำนวนมากจนทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้บริษัทต้องเพิ่มกำลังคนฝ่ายเทคโนโลยี, ปฏิบัติการ และบริการลูกค้า เพื่อรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายบริการลูกค้าที่ต้องตอบคำถามลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและทันท่วงที
นอกจากนี้ เพื่อรองรับความต้องการในการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น โบรกเกอร์จีนบางแห่งแจ้งลูกค้าว่า ธนาคารจะปรับเวลาทำการสำหรับการโอนเงินระหว่างธนาคารและบัญชีหลักทรัพย์ให้เร็วขึ้นเป็น 8.05 น.
เพิ่มน้ำหนักลงทุน ‘หุ้นจีน’
นักลงทุนและผู้บริหารกองทุนทั่วภูมิภาคต่างจับตามองการพุ่งสูงขึ้นของตลาดหุ้นจีน เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนของแนวโน้มขาขึ้น
ยักษ์ใหญ่การเงินโลกหันมาให้ความสนใจตลาดหุ้นจีนมากขึ้น บริษัทจัดการสินทรัพย์ระดับโลกอย่างน้อย 4 ราย รวมถึง BlackRock และ HSBC ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นจีน หรือที่เรียกว่า "overweight" โดยมองข้ามตลาดอื่นๆ หลังจากที่รัฐบาลจีนส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างชัดเจน
BlackRock ชี้ให้เห็นถึงมูลค่าที่น่าสนใจของหุ้นจีนเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับญี่ปุ่นที่ได้ปรับลดน้ำหนักลงไป HSBC ก็มีมุมมองเช่นเดียวกัน โดยลดน้ำหนักการลงทุนในเม็กซิโก ขณะที่นักลงทุนต่างชาติก็ทยอยถอนเงินออกจากอินเดีย ซึ่งเคยได้รับความนิยมจากการถูกมองว่าเป็น "จีนแห่งต่อไป"
แอนดี เมย์นาร์ด หัวหน้าฝ่ายหุ้นของ China Renaissance Securities ประจำฮ่องกง มั่นใจในแนวโน้มขาขึ้นของตลาดหุ้นจีนโดยระบุว่า ตลาดหุ้น A-shares กำลังจะตามทันตลาดอื่นๆ จึงเร่งประเมินความเสี่ยงและจัดหาเงินทุนเพื่อรองรับความต้องการลงทุนของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน หุ้นฮ่องกงได้รับอานิสงส์จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่กลับคืนมาเช่นกัน โดยได้รับแรงหนุนจากคำแนะนำของบริษัทลงทุนขนาดใหญ่ระดับโลก เช่น BlackRock และ Goldman Sachs ที่มองเห็นโอกาสในการเติบโตของตลาดหุ้นจีนในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนเตือนว่าความเสี่ยงของการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงก็อาจเกิดขึ้นได้หากรัฐบาลจีนไม่สามารถดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรมตามที่ตลาดคาดหวัง