รัฐบาลใหม่ พลิกมุมเรื่อง ‘กัญชา’ – ห้ามสูบ!
‘กัญชา’รัฐบาลใหม่ พลิกมุม แม้เป้าหมายยังคงเดิม เตรียมดันพรบ.กัญชากัญชง ออกมาควบคุม เป็นไปได้สูงกำหนดห้ามใช้เชิงสันทนาการ และห้ามสูบ
แม้เป้าหมายยังคงเดิม ‘กัญชาทางการแพทย์’ แต่มีการเปลี่ยนทิศทางการสื่อสารอย่างเห็นชัด เมื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เข้ามานั่งตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข จากเดิม “กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด” ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ไม่มีชื่อกัญชาอยู่ในบัญชีแนบท้ายประกาศยาเสพติดประเภท 5 มาเป็น “กัญชายังเป็นยาเสพติด” ทั้งที่อาศัยประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับเดียวกัน เพียงแต่หยิบยกมาสื่อสารในมุมที่ต่างกันเท่านั้น
สถานะปัจจุบันของกัญชา
“กัญชาไม่ใช่ไม่เป็นยาเสพติด แต่ยังเป็นยาเสพติด โดยสารสกัดที่มีTHC เกิน 0.2 % ยังเป็นยาเสพติด”นพ.ชลน่าน กล่าวในวันที่เข้ารับตำแหน่งที่สธ.วันแรก
อ้างอิงจากกฎหมายในปัจจุบัน สถานะกัญชาในตอนนี้ คือ
1.ทุกส่วนของกัญชาไม่ใช่ยาเสพติดประเภทที่ 5
2.สารสกัดที่มีสาร THC เกิน 0.2 % ยังเป็นยาเสพติด
3.ช่อดอกกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม ก่อนใช้ต้องมีการขออนุญาตจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
4.กลิ่นและควันของกัญชาถือเป็นเหตุรำคาญ
5.การจะนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ใดจะต้องขออนุญาตตามกฎหมายของผลิตภัณฑ์นั้น เช่น พรบ.อาหาร ,พรบ.ยา ,พรบ.เครื่องสำอาง เป็นต้น
ผลักดันพ.ร.บ.กัญชากัญชงมาควบคุม
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงนโยบายกัญชาทางการแพทย์ของรัฐบาลว่า ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาพชัดเจนว่าเป็นกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ จึงต้องมาพิจารณาในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เพื่อให้เป็นการแพทย์และสุขภาพอย่างแท้จริง
“มุมที่จะต้องปิดกั้นคือการใช้เพื่อสันทนาการ การใช้ที่ไม่เหมาะสม การใช้ที่เป็นอันตราย เพราะว่ากัญชาขณะนี้ไม่ได้หมายความว่า ไม่เป็นยาเสพติด สถานะเมื่อเป็นสารสกัดที่มี THC เกิน 0.2% ก็ยังจัดเป็นยาเสพติดอยู่”นพ.ชลน่านกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะยกร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชงฉบับใหม่หรือปรับปรุงจากร่างฉบับเดิมที่ยังไม่ผ่านสภา นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จะนำร่างพ.ร.บ.ที่มีอยู่แล้วมาพิจารณาก่อน ซึ่งขั้นตอนของการเสนอกฎหมายในสภานั้น รัฐธรรมนูญให้สิทธิคณะรัฐมนตรี (ครม.)ใหม่ จะยืนยันกฎหมายที่ค้างอยู่ในสภาหรือไม่ หากเห็นว่าจำเป็นก็ยืนยันและเริ่มต้นในร่างเดิม แต่ถ้าครม.ไม่ยืนยันร่างเดิมก็ตกไป ก็มีหน้าที่ต้องยกร่างใหม่
“ต้องไปดูในร่างกฎหมายว่า มีรายละเอียดอย่างไร มีข้อที่ควรปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ ครอบคลุมหรือไม่ตามข้อห่วงใยของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่อภิปรายให้ความเห็นเอาไว้ ยืนยันว่าจะต้องมีกฎหมายออกมาเพื่อควบคุมดูแล ซึ่งเรื่องของกฎหมาย ร่างกฎหมาย อะไรที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญ แต่ยังไม่ได้มีคำสั่งว่าจะมอบท่านไหนเข้ามาดูแลเรื่องนี้”นพ.ชลน่านกล่าว
ห้ามสูบ-ใช้สันทนาการ
แม้ว่า นพ.ชลน่านจะไม่ระบุรายละเอียดที่ชัดเจนของร่างพรบ.กัญชากัญชงฉบับใหม่ แต่หากดูจาก”จุดยืนเดิม”ของพรรคเพื่อไทย สมัยที่ยังเป็นฝ่ายค้าน และไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกับพรรคภูมิใจไทย นั้น เพื่อไทยเป็นพรรคหนึ่งที่บอกให้นำร่างพรบ.กัญชากัญชง ที่มีการนำเข้าสู่สภาฯเมื่อปลายปี 2565 กลับไปทบทวนใหม่ จนทำให้กัญชาไม่มีพรบ.เฉพาะออกมาควบคุมการใช้จนถึงปัจจุบัน และไม่เห็นด้วยกับ “กัญชาเสรี”
ตอนนั้นถึงขนาดให้พิจารณาว่าจะให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดหรือไม่ด้วย แต่จากคำให้สัมภาษณ์ของนพ.ชลน่านเมื่อมาเป็นรมว.สาธารณสุข ที่พยายามย้ำทุกครั้งว่า “กัญชา”นั้นเป็นยาเสพติดอยู่แล้ว ในส่วนของสารสกัดที่มี THC เกิน 0.2 %
ก็เป็นไปได้ว่า รมว.สาธารณสุข ที่ชื่อ นพ.ชลน่าน ไม่น่าจะลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้ชื่อกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภทที่ 5 อีกครั้ง
ฉะนั้น เพื่อไม่ให้ขัดกับนโยบายรัฐบาล ที่เดินหน้าเรื่อง “การใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพเพื่อสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ” รวมถึง ไม่ขัดกับจุดยืนเดิมของพรรคเพื่อไทยที่เคยอภิปรายไว้ในสภา และไม่ขัดกับพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันอย่างภูมิใจไทย
ในร่างพรบ.กัญชากัญชง ที่จะมีการผลักดันออกมาภายใต้ รัฐบาลเศรษฐา เป็นไปได้สูงที่จะมีการระบุเพิ่มเติมว่า “ห้ามสูบ” หรือ “ห้ามใช้ในเชิงสันทนาการ”