วัยรุ่นเครียด เสี่ยงซึมเศร้า ฆ่าตัวตายสูง แนะพ่อแม่ต้องเป็นเซฟโซนให้ลูก

วัยรุ่นเครียด เสี่ยงซึมเศร้า ฆ่าตัวตายสูง แนะพ่อแม่ต้องเป็นเซฟโซนให้ลูก

วัยรุ่นไทยเครียดสะสมสูงวัยทำงาน 4 เท่า! เสี่ยงซึมเศร้า ฆ่าตัวตาย ด้านจิตแพทย์ ระบุความเครียดของวัยรุ่นไม่ได้แก้ไขง่าย เพียงฟังเพลง เล่นเกม หรือคุยกับเพื่อน วัยรุ่นต้องการคนคอยแนะนำและอยู่เคียงข้าง แนะ พ่อแม่ต้องเป็นเซฟโซนให้ลูก

KEY

POINTS

  • วัยรุ่นมีแนวโน้มที่จะเครียดมากขึ้น และพบว่าความเครียดในวัยรุ่นสูงกว่ากลุ่มวัยทำงานถึง 4 เท่า ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่ากังวล
  • ความเครียดของวัยรุ่นไม่ได้แก้ไขง่าย อย่างการฟังเพลง เล่นเกม เพราะการจัดการกับความเครียดต้องการคนคอยแนะนำและอยู่เคียงข้าง
  • ครอบครัวควรจะเป็นเซฟโซนที่วัยรุ่นสามารถเล่าปัญหาหรือระบายความรู้สึกโดยไม่ถูกตัดสินหรือมองว่าเป็นภาระ ผู้ปกครองควรพูดคุยกับเด็ก ๆ อย่างเปิดใจ ไม่ละเลยหรือด้อยค่าความเครียด

ในยุคที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็ว วัยรุ่นต้องเผชิญกับแรงกดดันหลายด้าน ทั้งการเรียน ความคาดหวังจากครอบครัว และการใช้สื่อสังคมออนไลน์ จนเกิดความเครียดสะสม แต่บ่อยครั้งปัญหานี้กลับถูกมองข้ามจากครอบครัว ด้วยความคิดที่ว่าความเครียดของเด็กเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ไม่รุนแรงเหมือนความเครียดของผู้ใหญ่ ทำให้แทนที่เด็ก ๆ จะมีที่พึ่ง กลับยิ่งทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวและเครียดมากกว่าเดิม จนอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหรือปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ

จากสถานการณ์ปัญหาสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยการสำรวจข้อมูลกลุ่มเด็กและวัยรุ่น อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 360,069 ราย ของกรมสุขภาพจิต ผ่านแอปพลิเคชั่น Mental Health Check-in ระหว่างวันที่ 12 ก.พ.65 - 27 ก.พ.67 พบเสี่ยงซึมเศร้าถึง 39,105 ราย คิดเป็นร้อยละ 10.86 เสี่ยงฆ่าตัวตาย จำนวน 65,951 ราย คิดเป็นร้อยละ 19.12 สอดคล้องกับการสำรวจในเขตสุขภาพที่ 1 (8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน) จำนวน 20,562 ราย พบมีภาวะเสี่ยงซึมเศร้ามากที่สุด จำนวน 2,219 ราย และเสี่ยงฆ่าตัวตาย 3,931 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

"วัยทำงาน"ป่วยจิต ระดับความเครียดพุ่ง!!

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำคนรุ่นใหม่ "หดหู่ เครียด ซึมเศร้า" และวิธีการรับมือ

ความเครียด ปัญหาของวัยรุ่นสูงกว่าวัยทำงาน 4 เท่า 

นอกจากนั้น ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตในปี 2565 ชี้ว่าวัยรุ่นมีแนวโน้มที่จะเครียดมากขึ้น และพบว่าความเครียดในวัยรุ่นสูงกว่ากลุ่มวัยทำงานถึง 4 เท่า ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่ากังวล

พญ. เพ็ญชาญา อติวรรณาพัฒน์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจิตเวช ศูนย์สุขภาพใจ รพ.วิมุต จะชวนมาทำความเข้าใจว่าความเครียดของวัยรุ่นก็เป็นเรื่องใหญ่ไม่ต่างกับผู้ใหญ่ พร้อมแนะนำแนวทางที่ครอบครัวสามารถสนับสนุนวัยรุ่นให้มีสุขภาพจิตที่ดี ก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้

หนึ่งในปัญหาสุขภาพจิตที่พบได้บ่อยในวัยรุ่นคือ ความเครียด ภาวะอารมณ์หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ อึดอัด และไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข  

พญ. เพ็ญชาญา อธิบายเพิ่มเติมว่าบ่อยครั้งเวลาเราเจอปัญหาหรืออุปสรรคที่เข้ามาในชีวิต ก็เป็นเรื่องปกติที่ทำให้เรารู้สึกเครียด ซึ่งหลายคนพอเห็นว่าเด็ก ๆ เครียด ก็มักแนะนำให้ไปฟังเพลง เล่นเกม หรือคุยกับเพื่อนก็น่าจะหายเครียดแล้ว แต่จริง ๆ ความเครียดของวัยรุ่นไม่ได้แก้ไขง่ายขนาดนั้น เพราะการจัดการกับความเครียดบางครั้งก็ต้องการคนคอยแนะนำและอยู่เคียงข้าง

วัยรุ่นเครียด เสี่ยงซึมเศร้า ฆ่าตัวตายสูง แนะพ่อแม่ต้องเป็นเซฟโซนให้ลูก

สัญญาณความเครียดในวัยรุ่น

วัยรุ่นในปัจจุบันต้องเผชิญกับหลายปัจจัยที่ทำให้เครียด ไม่ว่าจะเป็นแรงกดดันจากการเรียน ความคาดหวังจากครอบครัว หรือแม้แต่การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นในโลกออนไลน์ และยังเกี่ยวข้องกับความเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนที่ทำให้มีอารมณ์แปรปรวนได้ง่ายขึ้น ซึ่งความเครียดเหล่านี้หากสะสมไว้นานอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ เช่น โรคซึมเศร้า ภาวะวิตกกังวล โรคอารมณ์สองขั้ว หรือภาวะสมาธิสั้น

พญ. เพ็ญชาญา เล่าถึงสัญญาณของความเครียดว่า ปกติเด็กไม่ค่อยแสดงออกว่าตัวเองเครียด ผู้ปกครองอย่างเราจึงควรเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ได้เกรดน้อยลง ชอบอยู่คนเดียวมากกว่าอยู่กับเพื่อนหรือครอบครัว หรือหงุดหงิดง่ายขึ้น ซึ่งถ้าเด็ก ๆ มีอาการแบบนี้ก็อาจเกิดจากความเครียด ควรหันมาใส่ใจและพูดคุยหาสาเหตุร่วมกันทันที

วัยรุ่นเครียด เสี่ยงซึมเศร้า ฆ่าตัวตายสูง แนะพ่อแม่ต้องเป็นเซฟโซนให้ลูก

ครอบครัวต้องเป็นเซฟโซนให้เด็ก

คนที่ใกล้ชิดที่สุดอย่างครอบครัว คือจุดเริ่มต้นในการดูแลสุขภาพจิตของวัยรุ่น ในยุคที่โลกโซเชียลมีอิทธิพลต่อวัยรุ่น สิ่งสำคัญอย่างแรกคือการสอนให้เด็ก ๆ ใช้สื่อออนไลน์อย่างมีสติ และแบ่งเวลาทำกิจกรรมในชีวิตจริง เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ หรือใช้เวลากับครอบครัว เพื่อลดความกดดันจากโลกออนไลน์ นอกจากนี้การสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเข้าใจและการสื่อสารเชิงบวกในครอบครัวก็เป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดความเครียดสะสม ลดโอกาสที่วัยรุ่นจะหันไปหาสารเสพติดหรือทางออกที่ผิด 

พญ. เพ็ญชาญา อติวรรณาพัฒน์ อธิบายต่อว่า ครอบครัวควรจะเป็นเซฟโซนที่วัยรุ่นสามารถเล่าปัญหาหรือระบายความรู้สึกโดยไม่ถูกตัดสินหรือมองว่าเป็นภาระ ผู้ปกครองควรพูดคุยกับเด็ก ๆ อย่างเปิดใจ ไม่ละเลยหรือด้อยค่าความเครียด วิธีนี้จะช่วยให้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางจิตใจ ทำให้ผู้ปกครองสามารถพูดคุยและช่วยจัดการความเครียดของลูก ๆ ได้อย่างเหมาะสม และหากจำเป็นก็ควรพาไปปรึกษาจิตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ ซึ่งปัจจุบันเป็นเรื่องปกติในสังคมที่ไม่ต้องรู้สึกอาย

"คุณพ่อคุณแม่ทุกคนต้องเข้าใจว่าความเครียดของวัยรุ่นไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เป็นปัญหาที่ต้องทำความเข้าใจอย่างจริงจัง ในฐานะคนในครอบครัวก็อยากให้ช่วยกันแก้ไขปัญหา รับฟังและพูดคุยกับพวกเขาอย่างไม่ตัดสิน ทำให้ครอบครัวเป็นเซฟโซนที่เด็ก ๆ สามารถพึ่งพาได้ เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่า ไม่ว่าจะพบเจอกับความเครียดขนาดไหน ก็จะสามารถผ่านไปได้เสมอ"  พญ. เพ็ญชาญา  กล่าว

วัยรุ่นเครียด เสี่ยงซึมเศร้า ฆ่าตัวตายสูง แนะพ่อแม่ต้องเป็นเซฟโซนให้ลูก

วัยรุ่นเครียด เสี่ยงซึมเศร้า ฆ่าตัวตายสูง แนะพ่อแม่ต้องเป็นเซฟโซนให้ลูก